รีวิว Come Back Home
รีวิว Come Back Home เป็นผลงานของ ลอ ชิเหลียง มือเขียนบทและผู้กำกับฮ่องกง ที่มีผลงานออกมานับสิบเรื่องตั้งแต่ปลายยุค 90’s แต่ก็ไม่มีผลงานที่ดังเปรี้ยงปร้างสักเรื่องเดียว ที่เคยเข้ามาฉายในบ้านเราล่าสุดก็เรื่อง ‘ดับแผนล่ากระสุนสั่งตาย’ ในชื่อไทย ‘ดับแผนล่ากระสุนสั่งตาย’ หนังปี 2015 ชิเหลียงเป็นผู้กำกับที่ไม่ลายเซ็นของตัวเอง ทำหนังแบบไม่เป็นรูปไม่เป็นร่างก็ว่าได้ เพราะทำทั้ง หนังเด็ก หนังผี หนังตลก action movie มาจนถึง ‘Come Back Home’ชิเหลียงยังคงเหมารวมหน้าที่กำกับและเขียนบทเช่นเคย
หนังเล่าเรื่องง่าย ๆ ธรรมดาของครอบครัวเล็ก ๆ ที่มี พ่อ แม่ ลูกชายคนโต และลูกสาวคนเล็ก ที่พากันขับรถไปเที่ยวภูเขาหิมะ ระหว่างทางจะกลับที่พัก รถเกิดติดหล่ม ระหว่างที่พ่อแม่กำลังช่วยกันขุดหิมะออกนั้น ‘Pawei’ เจ้าลูกชายวัย 8 ขวบก็วิ่งพรวดพราดออกไปกลางถนน ทำให้รถที่วิ่งมาต้องเบรกจนเสียหลัก หลังขอโทษขอโพยคู่กรณี พ่อก็หันมาดุว่าเจ้าลูกชาย ทำให้พาเว่ยเสียใจ งอนพ่อและวิ่งไปซ่อนตัวในกระท่อมข้างทาง
พอแก้ไขเรื่องรถติดหล่มได้เรียบร้อย พร้อมจะเดินทางต่อ Pawei ก็หายไปจากกระท่อมนั้นเสียแล้ว กลายเป็นวิกฤตการณ์ที่ตำรวจ ทหาร อาสาสมัครต้องออกตามหาเด็กน้อยท่ามกลางหิมะที่ตกหนักและหนาวเหน็บเป็นอย่างมาก และเป็นภารกิจที่ต้องแข่งกับเวลาเพราะไม่รู้ว่าเด็กน้อยจะรอดชีวิตอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศเช่นนี้ได้ยาวนานเพียงใด
ว่ากันด้วยพล็อตแม้ไม่แปลกใหม่ แต่ก็มีความน่าดึงดูด ชวนติดตามพอดู เพราะหนังเล่าผ่านทางพ่อฝั่งเดียว ในใจก็ค่อนข้างเชื่อล่ะว่า หนังที่ออกฉายในช่วงเทศกาลมงคลแบบนี้ คงไม่ใจร้ายเขียนให้เด็กตายหรอก แต่ก็น่าติดตามว่า ชิเหลียงจะเขียนให้เด็กรอดอย่างไร ในขณะที่ตั้งโจทย์มายากเย็นแสนเข็ญแบบนี้ เยนประเดิมงาน drama เต็มตัวครั้งแรกกับบทพ่อที่ไม่น่าประทับใจนัก และไม่น่าจะเป็นที่จดจำของผู้ชม แต่เยนจะจดจำบทนี้ตลอดไป เพราะเป็นหนึ่งในหนังคว่ำในเครดิตของเขาไปแล้ว Shi Liang เขียนให้ ‘พ่อ’ ของเยนเป็นพ่อที่ ‘น่ารำคาญ’ มาก และกลายเป็นตัวทำลายหนังเสียเอง
เมื่อบทพระเอกของเรื่องกลายเป็น ‘จุดด้อย’ ของหนังเช่นนี้ ก็เข้าใจได้ล่ะ ว่าพ่อย่อมเป็นห่วงลูก แต่พ่อในเรื่องนี้แสดงความเป็นห่วงด้วย อาการหัวร้อน พูดจาโผงผางรุนแรง และก้าวก่ายงานของเจ้าหน้าที่ และรุนแรงที่สุดก็คือการทำตัวให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่ต้องเสียกำลังคนมาช่วยเหลือพ่อ แทนที่จะได้ไปตามหาลูกกัน ดูไปก็นึกขอบคุณ Shi Liang ที่ไม่เขียนให้แม่และลูกสาวกลายเป็นตัวละครวุ่นวายเพิ่มมาอีก
จนมาครึ่งหลังที่หนังดูจะน่าสนใจขึ้นมาก เมื่อหนังเริ่มสอดแทรกเนื้อหาสาระฉากใหญ่อย่าง ภูเขาหิมะถล่มเข้ามา เป็นฉากที่น่าชื่นชมครับ เปลี่ยนภาพลักษณ์จากหนังฟอร์มเล็ก ดูเป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างสูงขึ้นมาเลย กับภาพมุมกว้างที่เห็นความน่ากลัวของหิมะถล่ม บวกกับ actor ประกอบหลายสิบคน และไม่ใช่ผ่านไปแบบแว้บ ๆ แต่เป็นฉากที่ลากยาว
แม้จะไม่ได้ทำให้เส้นเรื่องหลักเดินไปข้างหน้า แต่ก็เป็นการตอกย้ำความรู้สึก ‘ผิด’ ให้กับผู้เป็นพ่อ ที่เขาแบกรับความรู้สึกนี้มาตั้งแต่แรกว่าเป็นเพราะเขาต่อว่าลูกชาย เลยทำให้ลูกชายน้อยใจหนีไป แล้วยังเป็นสาเหตุที่พาให้เจ้าหน้าที่จำนวนมากต้องมาพบเจออันตรายกับหิมะถล่มเช่นนี้ ซึ่งส่งผลให้กับการตัดสินใจกระทำการที่ค่อนข้างรุนแรงในช่วงท้ายของหนัง
สรุป ‘Come Back Home’ เป็นหนังที่ตั้งใจขายดราม่าแต่ scene ดราม่าจุดไม่ติด แถมกลายเป็นจุดด้อยของหนังไปเสียอีก แต่สิ่งที่ทำให้หนังเดินหน้าไปอย่างน่าสนใจคือ ข้อสงสัยว่าหนังจะเขียนให้เจอลูกชายที่ไหนอย่างไร ซึ่งก็เฉลยออกมามีเหตุและผลพอควร และ scene ระทึกที่สอดแทรกเข้ามาเนือง ๆ เป็นโปรดักชันใหญ่ที่ภาพออกมาแนบเนียนสมจริงดี เอาใจช่วย ดอนนี่ เยน ต่อไปครับ เชื่อว่ายังไงเขาก็ต้องไปต่อกับ drama movie ส่วนผลงานเรื่องต่อไป เยนกลับไปเล่นหนังแอ็กชันในหนังฮอลลีวูด ‘Sleeping Dogs’ หนังที่ดัดแปลงมาจากวิดีโอเกมปี 2012 ยังไม่ประกาศกำหนดฉาย
รับชมตัวอย่างหนัง : Come Back Home
ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim