Fowthefilm รีวิวหนังใหม่
Untitled-2 (1)

รีวิว Obsession

รีวิว Obsession เรื่องราวของตัวซีรีส์เริ่มต้นจากตัวของ วิลเลียม แฟร์โรว์ (Richard Armitage) ศัลยแพทย์ที่มีฝีมือชีวิตสมบูรณ์แบบ มีพร้อมสรรพทั้งทรัพย์สิน อาชีพการงานมั่นคง คำชื่นชมท่วมท้น และครอบครัวอันแสนปราศจากความว้าเหว่ที่ประกอบไปด้วยภรรยาอย่าง อิงกริด แฟร์โรว์ (Indira Varma) และลูก ๆ ทั้งสองคน แต่แล้ววันหนึ่ง “William” ได้พบกับแอนนา บาร์ตัน (Charlie Murphy) สาวสวยคนหนึ่งกลางงานเลี้ยง ทั้งคู่ตกอยู่ในภวังค์อย่างรวดเร็ว หารู้ไม่ว่า เธอคือแฟนสาวของ เจย์ แฟร์โรว์ (Rish Shah) ลูกชายคนโตของวิลเลียม (หรือลูกสะใภ้) นั่นเอง ความหมกมุ่นและคลั่งไคล้ในความสัมพันธ์ต้องห้ามนี้จะนำพาพวกเขาไปพบกับอะไรบ้าง

รีวิว-Obsession

ถ้าใครเคยดูเวอร์ชันหนัง (Damage) จะพอจับจับตาดูได้ว่าตัวหนังเล่าและขับเคลื่อนเรื่องด้วยเรื่องราวแบบอีโรติกทริลเลอร์ และในหนังก็มีฉากร่วมรักแบบ BDSM (Bondage, Discipline, Sadism, Masochism) นำเสนอความกระอักกระอ่วนของความรักและเซ็กส์ต้องห้ามที่วาบหวามแต่ผิดครรลอง ด้วยท่วงท่าลีลาท่าทางรักสุดพิศดารปนซาดิสม์นิด ๆ

รีวิว-Obsession

ก่อนที่ตัวหนังจะค่อย ๆ เฉลยปมความลับบางอย่างของ “Anna” ที่ถูกเก็บไว้เป็นปริศนา ในบางซีนหลังจากร่วมรัก เธอจะค่อย ๆ เล่าช่วงหนึ่งของชีวิตออกมา จนกระทั่งเมื่อถึงจุดพีก ตัวหนังก็เลือกที่จะเฉลยทุกอย่าง พร้อมค่อย ๆ ฉายบทสรุปชีวิตอันฉิบหายวายป่วงของผู้ชายแก่ ๆ คนหนึ่งที่ถูกทำลายเพราะความคลั่งไคล้ในผู้หญิงคนหนึ่งแบบหัวปักหัวปำ

รีวิว-Obsession

แม้ฉากอีโรติกพิศดารเวอร์วังเหล่านั้นจะเป็นจุดเด็นสำคัญที่เห็นได้ในฐานะเครื่องมืออำนาจของแอนนา ผู้ใช้เซ็กส์เป็นเครื่องมือในการกุมอำนาจของผู้ชายที่แสนจะเพอร์เฟกต์ไว้กับตัว ทั้งที่เขาอาจจะปฏิเสธในฐานที่มีเมียที่รักและเทิดทูนเขาอยู่เหนือทุกสิ่ง และมีลูกชายที่ยึดพ่อเป็นไอดอล แต่เสน่ห์และความ Taboo รวมทั้งข้อสงสัยบางอย่างของหญิงสาว ที่ตรึงเขาไว้ได้สนิทแนบแน่น แม้จะรู้แก่ใจดีว่าสิ่งที่เขาทำจะนำความฉิบหายมาสู่ ถึงขนาดยอมกลายเป็นทาสราคะของหญิงผู้แสนเย้ายวนให้อยากจะเข้าร่วมกิจกรรมทุกครั้งที่เจอ จนกระทั่งยอมทำทุกสิ่งทุกอย่าง แม้โลกภายนอกของ “William” จะได้รับการเทิดทูนจากคนรอบข้างแค่ไหนก็ตาม

รีวิว-Obsession

จะบอกว่า ‘Obsession’ ดีกว่าเหนือกว่า ‘365 วัน’ หรือ ‘ชีวิต/เซ็กส์’ หรือไม่ ผู้เขียนก็คิดว่าก็ยังมีดีกว่าในแง่ฉากอีโรติกที่สมจริงครับ (ไม่นับฉากจุ๊มเหม่งฉากนั้นนะ อันนั้น Cringe เกิน) คือต่อให้ดูแบบไม่สนเนื้อเรื่อง ไม่สนสี่สนแปด แล้ว Skip ข้ามไปดูฉาก Erotic เลย ก็ถือว่าดูรวดเดียวจบได้ เพราะมันแค่ 4 Ep. เอง

รีวิว-Obsession

เพียงแต่ว่าพอพิจารณาจากเรื่องต้นฉบับ ที่มีความเป็น “Erotic Thriller” แนว BDSM พบว่าตัวซีรีส์กลับนำเสนอฝั่งอีโรติกได้น่าพึงพอใจกว่าบทที่พยายามวางปมด้วยเทคนิคแบบพล็อตทริลเลอร์ และการสะท้อนประเด็นจริยธรรม การข้ามเส้นที่ไม่ควรข้าม หรือผลพวงของการคบชู้ที่ผิดทำนองคลองธรรม หรือแม้แต่ปมทางจิตวิทยา ที่เหมือนจะตั้งใจอธิบายกลไกและสาเหตุตั้งต้นของการกระทำของแอนนาได้ออกมาเบาบางและโฉ่งฉ่างจนคล้ายพล็อตและจริตแบบละครหลังข่าวไปเสียอย่างนั้น

รับชมตัวอย่างหนัง : Obsession

ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง

เครดิต : ดูอนิเมะบนมือถือ

สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim