รีวิว The Uncanny Counter
เรื่องราวการล่าปีศาจของพระเอก อาจจะเป็นพล็อตเดิม ๆ ที่เราหลายคนคุ้นชิน ไม่ว่าจะเป็นพระเอกที่เคยถูกรังแกและวันหนึ่งได้รับพลัง แล้วกลายเป็นฮีโร่พิทักษ์โลก แต่ซีรีย์เรื่องนี้แม้จะใช้พล็อตคล้าย ๆ กัน แต่บอกได้เลยว่ามันเต็มไปด้วยความแตกต่างอย่างน่าตกใจเลยล่ะ กับเรื่องราวของ “โซมุน” เด็กหนุ่มม.ปลาย ที่ขาพิการซ้ำร้ายยังโดนพวกเด็กลูกนักการเมืองคอยกลั่นแกล้ง แล้วก็ตามบูลลี่ไม่เว้นแต่ละวัน จนในที่สุดชีวิตใหม่ก็กำลังเดินทางมาหาเขา
เมื่อรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่ร้านบะหมี่ ซึ่งความจริงแล้วเป็นเพียงธุรกิจบังหน้าของเหล่าคนที่มีพลังพิเศษและต้องตามล่าปีศาจบนโลกมนุษย์ที่เรียกตัวเองว่า Counter ชวนโซมุนเข้าทำงาน เพราะว่าทีมขาดสมาชิกที่เพิ่งถูกเล่นงานจากปีศาจตัวฉกาจไป เขานั้นรับข้อเสนอนั้นและได้รับพลังที่ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดา แต่ว่าโซมุนก็ไม่สามารถใช้พลังนี้ในการต่อกรพวกที่มารังแกได้เพราะว่าเป็นกฎ ทำให้เขานั้นต้องเติบโตและเรียนรู้วิธีจัดการพวกนั้นด้วยตนเอง
ทำให้เราเห็นการเป็นไปของสองบริบทของเขา ไม่ว่าจะการเป็นนักเรียนชายที่ต้องดิ้นรนด้วยตนเอง และนักล่าปีศาจที่ต้องเสี่ยงอันตรายเพื่อแลกกับความสงบสุขของเมืองนี้
ซีรีย์เรื่องนี้นับเป็นการก้าวผ่าน Comfort Zone ของซีรีย์แฟนตาซีแอ็คชั่นหลายเรื่องของเกาหลี เพราะว่าการเล่าเรื่องของซีรีย์เน้นหนักไปที่ปัญหาของนักการเมืองที่หิวโหยอำนาจเป็นหลัก เหมือนกับแฝงนัยยะเอาไว้ว่าการที่พวกเขาพบปีศาจจำนวนมาก ราวกับว่าเมืองที่เขาอยู่กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางของปีศาจ ก็แทนได้กับความโลภมากในอภิสิทธิ์ต่าง ๆ ที่พวกนักการเมืองต้องการ ซึ่งนับเป็นหายนะครั้งใหญ่ของชาวเมืองทุกคน ในเรื่องนี้แม้จะไม่ได้ใช้ CG ระดับเทพหวือหวาอะไรมาก แต่ก็ทำออกมาได้เนียนตา
เพราะการต่อสู้ส่วนตัวเป็นการต่อสู้แบบเตะต่อยไม่ได้เน้นที่พลังพิเศษ อีกทั้งเรายังมีโอกาสเห็นฉากต่อสู้ในมุมมองของตัวเอก แทนการมองมุมกว้าง ให้อารมณ์เหมือนกำลังเล่นเกมอยู่อีกด้วย ซึ่งนับเป็นความน่าตื่นเต้นมาก ๆ ทีเดียว ประเด็นที่ต้องขอยกนิ้วให้สำหรับเรื่องนี้คงหนีเรื่องการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้งไม่ได้เลย เพราะว่าทั้งซีนดราม่าของเร้าอารมณ์หนักกันจนเสียน้ำตาเป็นลิตร ไหนจะซีนบู๊ที่ระห่ำกันซะจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ แม้ว่าดูเผิน ๆ เรื่องนี้จะเป็นคอเมดี้ที่บทไม่แน่น บอกเลยว่าผิดคาดจริง ๆ
ชมตัวอย่าง : The Uncanny Counter
