รีวิว Black Knight
รีวิว Black Knight เรื่องราวของห้าแปดเป็นแรงบันดาลใจให้กับ ซาวอล (รับบทโดย Kang Yoo Suk) หนุ่มอพยพที่มาแอบอาศัยบ้านเดียวกับ ซอลอา (รับบทโดย อีซม) ผู้พันแห่งหน่วยข่าวกรองพร้อมน้องสาวของเธอ แต่หลังจากเกิดกลุ่มชายไม่รู้จักบุกสังหารที่บ้านของซอลอาจนน้องสาวของเธอถูกฆ่าตาย ทำให้ชาวอลออกตามหาห้าแปดเพื่อให้เขาพยายามฝึกฝนเพื่อจะได้เป็นเข้าต่อสู้เพื่อค้นหาหนึ่งเดียวที่จะได้เป็นคนส่งของชอนมยองกรุ๊ป
นขณะเดียวกันการจัดแข่งขันดังกล่าวของ รยูซอก (รับบทโดย Song Seung Heon) รองประธานของชอนมยองกรุ๊ปก็เพื่อบังหน้าแผนร้ายในการกำจัดผู้อพยพและดำเนินกิจการผูกขาดขาย oxygen และพื้นที่อาศัยเพียงรายเดียว ในขณะเดียวกันการสืบสวนการตายของน้องสาวก็ทำให้ซอลอา ค้นพบเบื้องหลังไม่ชอบมาพากลระหว่าง Cheonmyung Group กับการลักพาตัวเด็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่อีกด้วย
‘Black Knight’ เป็นผลงานกำกับของ Jo Eui Suk ที่เคยมีผลงานเขียนบท ‘Golden Slumber’ หนังแอ็กชันทริลเลอร์มาก่อน มาคราวนี้เขาหยิบเว็บตูนต้นฉบับมาดัดแปลงเองกลายเป็นซีรีส์ 6 ตอนที่เรียกได้ว่าเป็นงานขายโปรดักชันสุดอลังการที่ทำได้ไม่ขี้เหร่เลย ดีในระดับที่อาจจะดีกว่าหนังฮอลลีวูดบางเรื่องด้วยซ้ำ โดยงานภาพของซีรีส์ก็ทำให้นึกถึง dystopian movie อย่าง ‘Mad Max’ โดยเฉพาะภาพการต่อสู้ของยานพาหนะบนทะเลทรายที่สลัดภาพหนังต้นฉบับได้ยากเหลือเกิน
นอกจากนี้มันยังมีหลายจุดที่ทำให้นึกถึงหนังและซีรีส์หลาย ๆ เรื่องโดยเฉพาะการต่อสู้เพื่อหาคนส่งของที่ได้บรรยากาศของหนังแนวเซอร์ไววัลอย่าง ‘เกมล่าเกม’ หรือกระทั่งซีรีส์เกาหลีแนวเกมหนีตายอย่าง ‘Alice in Borderland’ หรือกระทั่งมีฉากแข่งรถแบบไร้กติกาที่ทำให้อดนึกถึง ‘Death Race’ หนังแข่งรถ dystopia ของโรเจอร์ คอร์แมน โน่นเลย
แต่ถึงจะมีภาพเดจาวูของ “Sci-fi movie” โผล่มาเป็นระยะ แกนกลางของบทหนังก็ยังว่าด้วยเรื่องชนชั้นและความไม่เท่าเทียมที่ดูเหมือนเกาหลีเองจะยิ่งโหมประเด็นนี้หนักข้อเข้าไปอีกหลังความสำเร็จของ ‘ชนชั้นปรสิต’ ซึ่งการนำมาใช้กับ ‘Black Knight’ เองก็ดูจะไม่ได้เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะ “Hollywood Movies” เองก็เล่นประเด็นนี้อยู่แล้วเพียงแต่ปัญหาสำคัญของมันคือการที่เรื่องที่มันจะเล่าถูกเฉไฉออกทะเลไปไกลตั้งแต่ต้นเท่านั้นเอง
กล่าวคือแม้มันจะมีพรีมิส (สถานที่) ง่าย ๆ คือจะเป็นอย่างไรหากโลกเกิดมลพิษและถูกผูกขาดอากาศหายใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่กลุ่มผู้อพยพต้องการอากาศหายใจอย่างเท่าเทียม ซีรีส์กลับบริหารเวลาในการเล่าเรื่องทั้ง 6 ตอนด้วยการเพิ่มปมประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งการฆาตกรรมน้องสาวนายพลหน่วยข่าวกรองพิเศษ การจัดประลองเพื่อหาคนส่งของหรือกระทั่งประเด็นที่น่าจะสำคัญอย่างการเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ของบางคาแรคเตอร์ที่ท้ายที่สุดซีรีส์ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากพวกมันมากเท่าที่ควร
ดังนั้นสิ่งที่ดูจะเป็นจุดที่แข็งแรงที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นลักษณะที่ชวนดึงดูดของนักแสดงทั้งหลายอย่างความหล่อของคิมอูบินที่ยอมรับเลยว่ามองเพลินมาก ๆ เป็นผู้ชายที่โครงหน้าและรูปร่างดีจนไม่แปลกใจที่ซีรีส์จะมอบบทฮีโร่ให้เขา หรือกระทั่งซงซึงฮอนที่มาเล่นบทร้ายก็ทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความแปรปรวนและความบ้าอำนาจได้ชัดเจน ส่วนอีซมก็ยังเป็นอาหารตาให้หนุ่ม ๆ ได้อยู่แม้เรื่องนี้เธอจะปรากฎตัวในชุดทหารเป็นหลักก็ตาม
รับชมตัวอย่างหนัง : รีวิว Black Knight
ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim