รีวิว Blonde
รีวิว Blonde จากนิยายชื่อเดียวกันในปี 2000 ที่เข้าชิงรางวัล “Pulitzer” ของนักเขียนนิยายหญิงชื่อดังนาม จอยซ์ แคโรล โอตส์ (Joyce Carol Oates) ที่จับชีวประวัติของดาราสาวและผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในทศวรรษ 1950 อย่าง นอร์มา จีน (Norma Jeane) หรือที่คนทั้งโลกเคยได้รู้จักมาบางจากชื่อในวงการมายาของเธออย่าง มาริลิน มอนโร (Marilyn Monroe) โดยโอตส์เลือกถ่ายทอดให้เป็นนิยายผ่านจินตนาการจากปลายปากกาของเธอมากกว่าจะเป็นงานเขียนเชิงสารคดี แต่ก็ช่วยเชื่อมรอยแหว่งเว้าในชีวิตอันโลดโผนโจนทะยานของ “Monroe” ให้เข้าที่เข้าทางและเห็นมิติเชิงลึกในเรื่องราวของเธอมากขึ้นด้วย
ตัวนิยายเคยถูกถ่ายทอดเป็น “mini-series” ทางโทรทัศน์ชื่อเดียวกันในปี 2001 และนักแสดงชายมากเสน่ห์อย่าง แพตทริก เดมป์ซี (Patrick Dempsey) ร่วมแสดงนำ โดยเป็นการถ่ายทอดแบบแทบถอดบรรทัดต่อบรรทัดออกมาเป็นภาพ จากนั้นนิยายเรื่องนี้ก็ไม่เคยถูกนำมาทำอีกสักครั้งเลย จนเมื่อนักแสดงและโปรดิวเซอร์ชื่อดังอย่าง แบรต พิตต์ (Brad Pitt) ได้เข้าร่วมอำนวยการสร้าง โปรเจกต์หนังเรื่องนี้ก็ถูกจับจ้องมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นผลงานการกำกับและเขียนบทจากผู้กำกับที่มีผลงานไม่มากชิ้นอย่าง แอนดรูว์ โดมินิก (Andrew Dominik) ที่เคยมีผลงานหนังชีวประวัติกึ่งบทประพันธ์เรื่อง ‘แผนสังหารตำนานจอมโจร เจสซี่ เจมส์’ (2007) และ ‘Killing Them Softly’ (2012) ก็ตามที
แต่คงต้องบอกว่าการเลือก “Dominic” เป็นการเลือกผู้กำกับได้ถูกฝาถูกตัว ยิ่งเมื่อเห็นฝีไม้ลายมือในหนังชีวประวัติของ เจสซี เจมส์ มาแล้ว การเล่าเรื่องผ่านสุนทรียะทางภาพแบบกวีมันช่างไปได้ดีกับนิยายของโอตส์ ที่บันดาลดลเรื่องราวของมอนโรได้อย่างเข้มข้นเต็มไปด้วยการคำนึงถึงจิตวิทยาในเรื่องพัฒนาการของตัวละคร
แต่แทนที่จะเดินเรื่องไปตามตรรกะค่อย ๆ เรียงร้อยก่ออิฐสร้างบ้านให้เห็นร่างหญิงสาวที่อ่อนต่อโลกนาม Norma China ค่อย ๆ กลายร่างจากการถูกสาดหลากสีใส่ผ้าใบสีขาวขุ่นไม่รู้จบจนกลายเป็น มาริลิน มอนโร เช่นเดียวกับที่ผ่านมา โดมินิกกลับจับหัวใจของความหลงไหลอยู่ในวงกตแห่งฝัน ที่คล้ายคนสะลึมสะลือไปด้วยฤทธิ์ยาจนไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรลวง หรือตัวตนของเธอนั้นคือจีนหรือมอนโรกันแน่
ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่ตัดภาพโดดข้ามไปมาเหมือนคนหลับ ๆ ตื่น ๆ ใส่ฉากเรื่องดกินจริงต่อเนื่องไปอย่างไม่สอดคล้องกัน จนต้องคิดไปว่านี่เป็นความทรงจำจริง ๆ หรือเพียงมโนฝันของเด็กสาวที่มีทั้งฝันร้ายและสิ่งวาดหวังอยากให้เกิดขึ้นปนเปจนแยกไม่ออก ซ้ำภาพสีและขาวดำยังถูกใช้ขับเน้นทั้งความงามของภาพและวกกลับห้วงคะนึงหนึ่งในอดีตแสนไกลได้อย่างลงตัว มันทำให้การชมหนังเรื่องนี้เราต้องมีทั้งสมาธิและความเข้าใจในการนำเสนอพอควร
มันอาจไม่ได้อาร์ตจัดจนถีบคนดูออกห่าง แต่ก็คงไม่อาจเรียกได้ว่าเป็น “Drama movie” บันเทิงเต็มสูบที่ย่อยง่าย ถึงบอกว่าต้องเข้าใจว่ามันใช้กลวิธีการเล่าที่แปลกสักหน่อย ที่หากพยายามไปเข้าใจทุกอย่างที่มันไม่เล่ามากไปก็อาจจะล้าสมองพอควร
และถ้าคุณได้รู้เพิ่มว่าหนังเรื่องนี้เลือก “filming” ในสถานที่จริงที่มาริลิน มอนโรเคยใช้ชีวิตอยู่ โดยเฉพาะห้องที่เราได้เห็นฉากสุดท้ายแห่งชีวิตของเธอนั้น ก็คือห้องเดียวกันกับที่เธอจากไปจริง ๆ มันก็ยิ่งเต็มไปด้วยมวลความรู้สึกมากมายที่ยากจะบอกแล้ว อาจพูดได้ว่านี่คือหนังมาริลิน มอนโร ที่เป็นมากกว่าแค่หนังชีวประวัติอีกเรื่องหนึ่ง
รับชมตัวอย่างหนัง : Blonde
ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim