Bullet Train
รีวิว Bullet Train แซ็ก โอลเกวิคซ์ บุคคลที่สร้างบทหนังเรื่องนี้ ได้ปรับเปลี่ยนและดัดแปลงบทมาจากเรื่องราวในหนังสือนิยายแนวแอ็กชันสุดมันของญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า มาเรีย บีเทิล (2010) ผลงานของ อิซากะ โคทาโร (Kotaro Isaka) ซึ่งเรื่องดั้งเดิมเป็นการเล่าเรื่องการดวลกันของนักฆ่าบนรถไฟชิงกังเซน ซึ่งถ้าใครอยากติดตามหามาอ่านก่อนดูหนัง ก็สามารถสอบถามสำนักพิมพ์ (velvet) ถามหาหนังสือเล่มนี้ฉบับแปลไทยในชื่อว่า ‘รถไฟสายนักฆ่า’ หนังสือลำดับที่ 2 ในชุด ‘ไตรภาคนักฆ่า’ จากผู้เขียนคนเดียวกันได้เลยนะครับ
หนังเรื่องนี้ได้ควบคุมการแสดงทั้งหมดสายแอ็กชันอย่าง เดวิด ลิตช์ มากำกับให้ครับ ที่บอกว่าสายแอ็กชันก็เพราะว่างานของเขานี่เด่นไปทางหนังแอ็กชันระดับบล็อกบัสเตอร์ทั้งนั้นเลย ตั้งแต่ ‘John Wick’ (2014) (กำกับร่วมกับ แชด สตาเฮลสกี (Chad Stahelski)) ‘Atomic Blonde’ (2017), ‘Deadpool 2’ (2018) และ ‘Fast & Furious: Hobbs & Shaw’ (2019)
และไม่รู้ว่าบังเอิญหรือเจตนา เพราะนักแสดงนำอย่าง แบรด พิตต์ และ แซนดรา บุลล็อก ที่เคยเจอกันไปแล้วในหนัง ‘ผจญภัยนครสาบสูญ (The Lost City) ก็วกกลับมาเจอกันอีกครั้งในหนังเรื่องนี้ด้วยนะครับ คราวที่แล้ว พิตต์ไปรับเชิญให้หนังของบุลล็อก ครั้งนี้บุลล็อกก็ถูกรับเชิญมาเล่นให้หนังของพิตต์บ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วแต่เดิมบทนี้เป็นของ เลดี กาก้า (Lady Gaga) แต่เสียดายที่ตารางงานเจ๊แกไปชนกับ ‘House of Gucci’ (2021) ซะก่อน
เรื่องราวย่อ ๆ ของหนังเรื่องนี้ ว่าด้วย (story) ของนักฆ่าที่ชื่อว่า ‘เลดี้บัก’ ชื่อดูน่ารักมุ้งมิ้งเชียว 555 เลดี้บักเป็นนักฆ่าประสบการณ์มากมาย แต่มักจะพบกับจังหวะชีวิตเฮงซวย เจอเรื่องดวงกุดอยู่บ่อย ๆ ก็เลยอยากจะพักงาน สงบจิตใจ เดินเที่ยวเมืองญี่ปุ่นบ้างอะไรบ้าง แต่แล้วเขาเองก็ต้องจำใจรับภารกิจจาก ‘มาเรีย บีเทิล’ (แซนดรา บุลล็อก) ให้ไปฉกกระเป๋าปริศนาใบหนึ่งบนรถไฟหัวกระสุนชิงกังเซน
แต่แทนที่จะฉกชิงแล้วชิ่งออกมาง่าย ๆ กลายเป็นว่า เขากลับต้องติดอยู่ในคณะรถไฟชิงกังเซนความเร็วสูงสุด 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่มีจังหวะหยุดพักสั้นมาก แถมยังหยุดพักครั้งละไม่ถึงนาที แถมเขาเองยังก็ต้องพบว่า ขบวนรถด่วนคันนี้ไม่ได้แค่เร็วธรรมดา ๆ แต่ยังเร็วทะลุนรก เพราะเต็มไปด้วยนักฆ่า (character) แปลก ๆ ทั้ง ‘แทนเจอรีน’ (Aaron Taylor-Johnson) และ ‘เลมอน’ (Brian Tyree Henry) นักฆ่าฝาแฝดผลไม้ (ฝาแฝดโลกไหนว้า)
‘วูลฟ์’ (แบด บันนี่) มือมีด (Mexico) กันสุดเข้ม ‘พรินซ์’ (โจอี้ คิง) เจ้าชายนักฆ่าในร่างเด็กหญิง (?) ‘คิมุระ’ (แอนดรูว์ โคจิ) นักฆ่าผู้ต้องการล้างแค้น ‘ผู้เฒ่า’ (ฮิโรยูกิ ซานาดะ) ลุงดาบซามูไร (ชิเหน๋…) ‘ไวต์เดธ’ (Michael Shannon) ยากูซ่าสมญามัจจุราชขาว และน้อน ‘โมโมมอน’ (Momomon) นักฆ่าในคราบมาสคอต (!) แม้พวกเขาจะมีจุดประสงค์ และความแค้นแตกต่างกันออกไป แต่พวกเขาต่างก็มีจุดมุ่งหมายและจุดหมายปลายทางเดียวกันอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้พวกเขาต้องมาตามไล่ล่าฆ่ากันบนรถไฟสายนรกสายนี้
โดยรวมแล้ว ‘ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า’ นี่คือหนังที่เกิดมาสำหรับคอแอ็กชันวินาศสันตะโรที่เบื่อพล็อตเรียบ ๆ ล่ะครับ เพราะตัวหนังเล่าได้โหดร้ายมาก ๆ ปู ชง เก็บได้อย่างมีชั้นเชิง รวมทั้งยังนำเสนอความฮา มึน เพี้ยนของเหล่านักฆ่าได้แบบโบ๊ะบ๊ะ มีมุกฮาให้ได้ขำประปราย (บางอันก็เช้ยเชย) เล่าธีมชีวิตเฮงซวยได้น่าชม ส่วนฉากแอ็กชันก็ดุเด็ดเผ็ดมันไม่ทิ้งลายผู้กำกับ ‘John Wick’ ถ้าไม่นับจังหวะแวะข้างทางอืด ๆ
หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าน่าจะถูกใจคอแอ็กชันได้ไม่ยาก ถ้าเป็นรถไฟสักขบวน คันนี้ก็น่าจะเป็นรถไฟหัวกระสุนหน้าตาแปลกประหลาดไปมากที่เน้นวิ่งเอาเร็วไว้ก่อน อาจจะมีมึน ๆ นัว ๆ บ้าง แต่มันก็ยังออกมาสนุกตรงที่มันวิ่งเร็วโคตร ๆ แต่ไม่ตกรางนี่แหละ
รับชมตัวอย่างหนัง : Bullet Train
ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim