รีวิว Choose or Die

แม้ ‘Choose or Die’ ผลงานของ “Director” ชื่อไม่คุ้น โทบี เมกินส์ (Toby Meakins) จะเดินเรื่องด้วยพล็อตที่ไม่ได้ชวนให้รู้สึกแปลกใหม่มากกับ “computer game” ต้องคำสาปที่ผู้เล่นไม่สามารถหนีพ้น ต้องเล่นให้ชนะหรือไม่ก็ตาย อาจด้วยเพราะเราผ่านหนังเกรดบีแนวนี้มาบ้างแบบดัดหลบวิธีเล่ากันอย่างละนิดละหน่อยเกี่ยวกับ “death game” ที่มีอำนาจลึกลับควบคุมผู้เล่นให้ต้องเอาชนะไปเรื่อย ๆ

Choose-or-Die

และก็ต้องยอมรับว่าแม้พลอตมันจะไม่ได้ดูใหม่แต่มันก็ “interesting” อยู่วันยังค่ำ กับการได้ดูตัวละครเผชิญอาถรรพ์เหนือธรรมชาติที่ยากจะเข้าใจและถูกกดดันให้ต้องเล่นเกมนั้น แน่นอนว่านอกจากการเดินเรื่องแบบ “Thriller” ที่ชวนลุ้นว่าตัวละครจะเอาตัวรอดหรือจะหาวิธีผ่านในแต่ละด่านได้อย่างไรแล้ว อีกอย่างที่ทำให้หนังแนวนี้น่าสนใจเสมอคือปม “puzzle” ว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งหนังส่วนมากมักจะตกม้าตายกันตรงนี้เสียส่วนใหญ่

Choose-or-Die

ซึ่งข้อดีหนึ่งของหนังเรื่องนี้ก็คือ หนังมี “Idea” ที่น่าสนใจในการหาที่มาที่ไปของเกม และเมื่อเฉลยที่มาที่ไปแล้วคนดูไม่รู้สึกว่าผู้สร้างแถ และดูถูกคนดูมากเกินไป รวมถึงด่านสุดท้ายของตัวเกมเป็นอะไรที่ “create” และไม่เหมือนใครดี แม้ด้านโปรดักชันอาจไม่ได้ดูอลังการสมการรอคอย แต่แค่ไอเดียของการเล่นมันก็ชวนให้เดาได้ยากทีเดียว

สำหรับหน้าหนังนั้นได้ “Asa Butterfield” มาชูโรง โดยช่วงหลังเขาเหมือนจะมี “performance” ดังแค่ซีรีส์ ‘Sex Education’ และเหตุผลในการเล่นเรื่องนี้ก็อาจแค่เพื่อช่วยให้หนังเรื่องนี้มีดาราที่มี “Reputation” บ้างไม่ดูเกรดต่ำจนเกินไป

และอาจเพื่อให้คนดูคาดไม่ถึงกับบางฉากในหนังว่าผู้กำกับจะเอาบัตเทอร์ฟิลด์มาเล่นแบบนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าบทบาทที่ “Butterfield” ได้รับนั้น แทบไม่ได้ต้องการฝีมือการแสดงอะไรมากมายเลยจะเป็นดาราคนไหนก็น่าจะเล่นได้ จึงเป็นความน่าเสียดายสำหรับ fan club” ของเขาที่ติดตามมาตั้งแต่ ‘The Boy in the Striped Pyjamas’ (2008) ที่หนังใช “Benefit” จากเขาน้อยเกินไป

Choose-or-Die

ตัวหลักของหนังจริง ๆ เป็นฝั่งตัวละครสาวอย่าง “Kayla” ที่ได้นักแสดงหน้าและชื่อไม่คุ้นอย่าง ไอโอลา อีแวนส์ (Iola Evans) เสียมากกว่า เธอต้องรับบทหญิงสาวที่ตะเกียกตะกายหาชีวิตที่ดีกว่าแต่ด้วยสภาพฐานะทางบ้านที่อาศัยใน “slum flats” ย่านค้ายาเสพติด เธอจึงเลือกได้เป็นพนักงานทำความสะอาดจนวันหนึ่งได้มาพบ “old game” ที่เพื่อนชายอย่าง ไอแซก (อาซา บัตเทอร์ฟิลด์) ไปเหมายกกระบะมา

เธอเอามาเล่นเพราะไอแซกบอกว่าบางครั้งเกมเก่าพวกนี้ก็ซ่อนพวก “Reward” ที่เป็นเงินไว้ ด้วยภูมิหลังตัวละครที่มีดราม่าในครอบครัวค่อนข้างมากทำให้ “character” นี้ดูมีชีวิตมากที่สุดไปตามระเบียบ แต่ถามว่า “Evans” โดดเด่นเป็นที่จดจำได้ไหม ก็ต้องตอบว่ายังไม่ได้

สิ่งที่แฟน “horror movie” อาจจะตื่นเต้นได้มากหน่อยสำหรับเรื่องนี้คือการได้เสียงของ โรเบิร์ต อิงลันด์ (Robert Englund) หรือ “Freddy Krueger” จากแฟรนไชส์หนังนิ้วเขมือบ ‘A Nightmare on Elm Street’ มาพากย์เสียงในตัวเกมด้วย ดังนั้นใครดูเรื่องนี้ก็แนะนำเลยว่าดูเสียงดั้งเดิมดีกว่าพากย์ไทยแน่นอน

Choose-or-Die

โดยรวมหนังเรื่องนี้เป็นหนัง “Grade B style” ที่ทุนไม่สูงมาก แต่พยายามชดเชยด้วยความคิดสร้างสรรค์ทั้งวิธีการเล่นเกม (โดยเฉพาะด่านสุดท้าย) และที่มาที่ไปของเกม น่าเสียดายมันยังไม่โดดเด่นพอเป็น “dark horse” เหมือนอย่างหนังเรื่อง ‘Escape Room’ (2019) ที่มีปัจจัยหลาย ๆ อย่างใกล้เคียงกันได้ แต่ก็พอดูเพลินและชวน “follow” ว่าหนังจะเฉลยอย่างไรพอสมควร

รับชมตัวอย่างหนัง : Choose or Die

เว็บรีวิวหนัง

ดูอนิเมะบนมือถือ

สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา :FlowtheFlim