รีวิว Dream
รีวิว Dream เป็นเรื่องราวของ Yun Hong Dae นักกีฬาฟุตบอลหนุ่มอนาคตใกล้ แต่เขากลับต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันและประเด็นอื้อฉาวที่ทำให้เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของตัวเองใกล้จะริบหรี่ลงทุกที ทำให้เขาได้รับข้อเสนอให้มาเป็นโค้ชกับทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง เพื่อกระตุ้นพวกเขาไปสู่การเป็นตัวแทนชาติไปแข่งขันในระดับโลก นั่นก็คือทีมฟุตบอลของกลุ่มคนไร้บ้าน มือสมัครเล่นที่แทบจะไม่มีทักษะใด ๆ และเต็มไปด้วยภูมิหลังดราม่าที่แสนเข็ญ แต่ทิศทางของพวกเขาจะชัดเจนและลุล่วงได้หรือไม่
นี่คือผลงานกำกับและเขียนบทของนักสร้างหนุ่ม “Lee Byung Hun” ที่เคยปังสุด ๆ จากหนัง Extreme Job และซีรีส์ Be Melodramatic เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว นี่คือการกลับมาจับทำหนังของเขาอีกครั้ง หลังจากหันไปเอาดีสร้างซีรีส์อยู่หลายปีในช่วงโควิดระบาด และงานสร้างของเขาก็ยังคงเสน่ห์ในเนื้อหากับการปูทางปูเรื่องขายคาแรกเตอร์เด่น ๆ ให้กับตัวละครในหนังได้อย่างเต็มเปี่ยมอีกครั้ง อันเป็นจุดเด่นของหนังสไตล์ Lee Byung Hun
Dream อาจจะเป็นหนังที่แทบไม่มีอะไรแปลกใหม่ plot เรื่องก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ไล่เรียงมาแบบง่าย ๆ ไม่ต้องคิดวิเคราะห์และตกผลึกอะไร ด้วยเหตุนี้เองก็ทำให้เป็นหนังดูแล้วรู้สึกย่อยง่าย เป็นหนัง 2 ชั่วโมงที่ดูได้เพลิน ๆ กับทิศทางของเรื่องที่แทบเป็นสูตรสำเร็จและไม่ได้ออกนอกกรอบเดิมไปสักนิดเดียวเลย แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความรู้สึกและความสนุกที่คนดูจะได้เอ็นจอยไปกับมัน ทั้งความตลกปนดราม่าแบบหนังเกาหลีทำกันบ่อย ๆ
แต่สิ่งที่ทำให้ Dream ประคับประคองตัวหนังไปได้รอดนั่น ก็ต้องยกให้กับทีมนักแสดงของหนังเรื่องนี้ ที่กลายเป็นจุดเด่นที่เห็นได้ชัดและไฮไลต์ที่ปังที่สุดของเรื่อง เพราะพวกเขามารับบทในคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ที่ค่อนข้างเด่นชัด บทหนังสามารถวางตัวละครต่าง ๆ ได้แบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังนำเอาภูมิหลักให้กับตัวละครที่ยิ่งทำให้คนดูใกล้ชิดพวกเขามากยิ่งขึ้นด้วย
นอกจากความหล่อกับทรงผมเนี้ยบที่น่าจะเซ็ตมาอยู่ทรงเป๊ะของ “Park Seo Joon” ในหนังเรื่องนี้แล้ว เขาก็ถ่ายทอดบทของตัวเองออกมาได้อย่างดี ถึงจะไม่ใช่บทที่แปลกใหม่อะไรเท่าไหร่ แต่พัคซอจุนก็เอาบทนี้ได้แบบไม่ยากเย็นนัก ด้วยเสน่ห์และทักษะการแสดงของเขา เช่นเดียวกับ “IU” ที่อาจจะเป็นตัวละครที่ไม่ได้มีอะไรที่ชัดเจนมากนัก แต่เอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอก็ทำให้บทนี้ดูดีขึ้นมาได้เป็นกอง ทั้งที่ส่วนใหญ่จะยืนถือกล้องไปมาทั้งเรื่อง
ทีมนักแสดงสมทบก็ใส่เต็มกันแทบทุกคน เรียกได้ว่าหนังให้แอร์ไทม์และบทบาทที่แจ่มแจ้งกับพวกเขาทั้งหมด “Lee Hyun Woo” มากลับบทที่ค่อนข้างโดดเด่นดี ถึงคาแรกเตอร์ของเขาจะถูกบดบังไปจากพี่ ๆ ในหนังไปบ้าง “คิมจงซู”, “โกชางซอก” หรือ “Jung Seung Gil” กลายเป็นตัวขโมยซีนที่จะทำให้คนดูต้องหลงรักพวกเขาเช่นเดียวกัน
ดังนั้นโดยสรุปแล้ว Dream อาจจะเป็นหนัง feel good korea ที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จแบบเดิม ๆ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่นัก แต่หนังก็มีชัยไปกว่าครึ่งเพราะการคัดเลือกนักแสดงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มารวมตัวกันในหนังเรื่องที่เต็มไปด้วยสีสัน บทหนังง่าย ๆ กับการเล่าเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมายอะไร เป็นสิ่งที่ทำให้คนดูรู้สึกย่อยง่าย อาจจะไม่ได้มีอะไรให้น่าจดจำมากนัก แต่ก็นับว่าเป็นหนังที่ดูเพลิน ๆ สนุกดียิ้มและเอ็นจอยกับได้ดีตลอดทั้งเรื่อง
รับชมตัวอย่างหนัง : Dream
ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim