Fowthefilm รีวิวหนังใหม่
แทงบอล

รีวิว Hunt ล่าคนปลอมคน

รีวิว Hunt ล่าคนปลอมคน ‘Hunt’ ว่าด้วยเรื่องราวของเกาหลีใต้ในช่วงทศวรรษ 1980 ภายใต้การคุ้มครองของรัฐบาลเผด็จการ นำมาสู่ความตึงเครียดทุกภาคส่วน แถมต้องรับมือกับศัตรูร่วมแผ่นดินอย่างเกาหลีเหนือที่ค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาเรื่อย ๆ พัคพยองโฮ (Lee Jung-jae) หัวหน้า (Detective) ราชการลับระหว่างประเทศ (KCIA) และ คิมจองโด (Jung Woo-sung) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (NIS) ต้องชิงดีชิงเด่น เพื่อตามล่าสายลับ (North Korea) ฉายา ‘ดงลิม’ (Donglim) ที่คาดว่าเป็นหนอนบ่อนไส้แฝงตัวเพื่อ

ลักลอบส่งข่าวกรองและความลับของรัฐบาลให้กับทางเกาหลีเหนือ แม้ทั้งคู่จะเป็นม้ารับใช้รัฐบาลเผด็จการ แต่สองหัวหน้า สองอุดมการณ์มาอยู่ในถ้ำเดียวกัน จึงต้องไล่ล่าสืบสวนกันเองเพื่อหาว่าใครกันแน่คือ Dong Lim โดยมีชีวิตของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และแผ่นดินคาบสมุทรเกาหลีเป็นเดิมพัน

Hunt-ล่าคนปลอมค

ถ้าจะให้อธิบายว่า (storyline) ของหนังเรื่องนี้มันจะเป็นไหนรูปแบบไหน สำหรับบุคคลที่ริเริ่มการทำ หนังเรื่องนี้คือ ‘(สองคนสองคม Infernal Affairs)’ (2002) หรือ ‘สองคนสองคม’ เวอร์ชันเกาหลีนั่นแหละครับ เพราะว่าโครงเรื่องนั้นพูดถึงเรื่องราวของคนสองคนที่โคจรมาเจอกันด้วย Conflict เดียวกัน ก็เลยทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกันขึ้นมา รวมทั้งความแตกต่างนิสัยและสตอรีของแต่ละตัวละครก็จะมีความเทา ๆ และแบบแผนที่วางไว้ยึดถือกันคนละฝั่งฟาก จนยากที่จะแยกด้วยสายตาและความรู้สึกผิวเผินว่าคนไหนดีคนไหนชั่ว ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ก็เป็นอย่างนั้นเลยครับ

Hunt-ล่าคนปลอมค

เพียงแต่ว่าสิ่งที่แตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัดจากหนังเรื่องนั้นก็คงมีสองอย่างครับ คือตัวหนังนั้นถูกขับเคลื่อนด้วยแกนเรื่องแบบ Political Drama หรือดราม่าการเมืองที่ตีวงแคบเล่าถึงสภาวะเหตุบ้านการเมืองในช่วงรัฐบาลเผด็จการที่กำลังตึงเจียนแตก แม้ Disclaimer ต้นเรื่องจะบอกว่าเหตุการณ์ บุคคล สถานที่ ฯลฯ เป็นเรื่องสมมติ แต่ถ้าพอมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์เกาหลีก็จะรู้ว่า ตัวหนังอ้างอิงมาจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริงหลายส่วน ทั้งเหตุการณ์จลาจลล้อมปราบผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยที่เมืองกวางจู

(Gwangju Uprising) โดยการนำของนายพลชุนดูฮวาน (Chun Doo-hwan) ผู้นำรัฐบาลเผด็จการในปี 1980 การลอบสังหารผู้นำ (Chun Doo Hwan) ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า (เมียนมา) โดยสายลับเกาหลีเหนือในปี 1983 และเหตุการณ์ที่นักบินเกาหลีเหนือ ใช้เครื่องบินขับไล่ของรัสเซียบินล้ำเข้าน่านฟ้าเกาหลีใต้หน้าตาเฉย ก่อนดูหนัง ถ้าหาข้อมูลเรื่องประวัติศาสตร์ อุดมการณ์ประชาธิปไตย-เผด็จการ ความขัดแย้งเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ยุค 80’s มาก่อน น่าจะทำให้ดูสนุกขี้นอีกนิดหน่อยล่ะครับ

Hunt-ล่าคนปลอมค

คือแน่นอนแหละว่า พอตัวหนังมันเล่าเรื่องภายใต้ความรู้สึกหรือสิ่งที่อยู่รอบๆความขัดแย้งระหว่าง (Ideology) เผด็จการ-ประชาธิปไตย ตัวหนังเองก็ถือว่าสะท้อนภาพนี้ได้ดีนะครับ เพราะแม้ตัวละครจะอยู่ภายใต้รัฐเผด็จการ หรือเรียกว่าอยู่ฝ่ายซ้ายเหมือนกัน แต่พอถึงเวลาจริง ๆ สถานการณ์จะค่อย ๆ บีบบังคับให้ทั้งคู่ทำในสิ่งที่ดูเหมือนว่าไม่ควรจะทำ แต่ก็ต้องทำด้วยวิถีของแต่ละคน ซึ่งตอนแรกเราอาจจะมองว่า ภารกิจที่ทั้งคู่ทำอยู่ เป็นการทำเพื่อไล่ต้อนให้อีกฝ่ายให้จนมุม

แต่พอตัวหนังค่อย ๆ เฉลยปมทีละปมออกมา สุดท้าย ตัวหนังจะค่อย ๆ เผยผิว ‘ศัตรูที่แท้จริง’ และความต้องการสูงสุดที่แท้จริงของแต่ละคนออกมา ซึ่งอะไรแบบนี้แหละที่ดูแล้วชวนให้หงุดหงิดและบีบหัวใจมาก เพราะมันช่างใกล้ตัว คุ้น ๆ ดูแล้วนึกถึงสถานการณ์ในบางประเทศยังไงชอบกล…โดยรวม ๆ แล้ว ‘Hunt ล่าคนปลอมคน’ ถ้ามองว่านี่คือหนังแอ็กชันเรื่องหนึ่ง ก็ต้องถือว่าเป็นหนังที่ดู

Hunt-ล่าคนปลอมค

สนุกสำหรับคอแอ็กชันทริลเลอร์ แนวสืบสวนสอบสวนไล่ล่าจารชน อารมณ์ประมาณนี้ล่ะครับ เป็นหนังที่อัดจังหวะบู๊โหด ๆ มาแบบแทบจะไม่ให้ได้หยุดหย่อน อัดเสียงปืนเสียงระเบิดแบบสะใจ เดินเรื่องเร็วฉับไว การตั้งคำถามเกี่ยวกับอุดมการณ์ทางการเมือง อุดมการณ์ทางความคิด อำนาจเผด็จการที่ดูแล้วก็สะท้อนสะเทือนใจ และบทสรุปที่พลิกล็อกหัวเหวี่ยงจนคาดคะเนเรื่องแทบไม่ได้

Hunt-ล่าคนปลอมค

แม้จะมีความซับซ้อนทางเรื่องราวและ Conflict อยู่มากพอสมควร และหลาย ๆ จังหวะที่เล่าเรื่องยังไม่คมอยู่บ้าง แต่โดยรวม นี่ก็ถือว่าเป็น (Performance) การกำกับครั้งแรกของอีจองแจที่ก็ถือว่าตีโจทย์ได้แตก ทำได้ไม่เลว จนผู้เขียนก็แอบเชียร์ให้เขายังกำกับหนังออกมาอีกเรื่อย ๆ นะครับ

รับชมตัวอย่างหนัง : Hunt ล่าคนปลอมคน

ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง

เครดิต : ดูอนิเมะบนมือถือ

สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim