รีวิว Magic Mike's Last Dance
รีวิว Magic Mike’s Last Dance เรื่องราวของ “Mike Lane” หวนคืนเวทีเดือดอีกครั้งหลังหายหน้าหายตาไปนานจากสัญญาทางธุรกิจที่ไม่ประสบความสำเร็จ เขาหมดเนื้อหมดตัวจนต้องไปทำงานเป็นบาเทนเดอร์ในหลอริดา แต่เพราะยังมีสิ่งที่ต้องทำเป็นครั้งสุดท้าย Mike จึงมุ่งหน้าไปยังลอนดอนกับหญิงสาวผู้มั่งคั่ง ที่มีทิศทางด้วยข้อเสนอที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ ร่วมถึงตัวเธอเองด้วย แต่แล้ววันหนึ่ง Mike ได้ค้นพบความจริงที่อยู่ในใจของเธอ แต่เขาจะสามารถเฝ้าหานักเต้นสุดโด่งดังได้ไหม
เอาจริง ๆ แบบเ “reveal” อย่างบริสุทธิ์ใจเลยว่า แทบจะจำภาพของหนัง 2 ภาคแรกของหนังชุดนี้ไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ มันกลายเป็นหนังนักเต้นที่ถูกค่อย ๆ หายไปตามเวลา แม้ว่าจะผ่านไปแค่ 10 ปีเท่านั้นเอง แต่ถามว่าจำเป็นจะต้องไปย้อนดูภาคก่อน ๆ ก่อนจะมาดูภาคนี้หรือไม่ ก็อาจจะไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ แต่ดูเพื่อพิจารณาใหม่อีกครั้งก็น่าจะอินเพิ่งขึ้นได้อยู่ในระดับหนึ่ง เพราะในภาคนี้อาจจะไม่ได้เชื่อมโยงและเชื่อมเกี่ยวกับภาคก่อน ๆ มากสักเท่าไหร่ด้วย
“Steven Soderbergh” ยังกลับมารับหน้าที่สานต่องานกำกับหนังภาคนี้อีกครั้งเช่นเคย พ่วงด้วยทีมงานชุดเก่า ไม่ว่าจะเป็น “Reed Carolyn” ที่เขียนบทให้มาตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคปัจจุบัน ถือว่าพวกเขารู้ดีว่าคนดูต้องการเห็นอะไร และอยากได้สิ่งใด เพียงแต่ว่าสัมผัสได้ชัดเจนไปหน่อยว่า ภาคที่ 3 นั้น ความเคร่งขรึมค่อนข้างเบาบางลงไปอย่างน่าเสียดาย
บทหนังอาจจะไม่ได้มีกึ๋นและคมคายได้เท่ากับภาคก่อนที่เคยทำเอาไว้ กลายเป็นหนังเหมือนจะมีเอาไว้เกี่ยวข้องกับรายการ reality ที่ต่อยอดมาจากหนังเรื่องนี้ อย่าง “Finding Magic Mike” ที่เพิ่งฉายไปเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการ casting นักเต้นหน้าใหม่ เพื่อนำมาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้นั่นเอง ทั้งเส้นเรื่องหลักและเส้นเรื่องรองยังไม่ค่อยมั่นคงถึงที่สุดนัก แต่ก็ยังคงเต็มไปเสน่ห์เพลิน ๆ ตามสไตล์ของทีมผู้สร้างชุดนี้
Magic Mike’s Last Dance อาจจะมีสูตรสำเร็จที่ดูได้ แต่ยังหาจุดที่ชวนตรึงใจที่สุดไม่ค่อยได้ ถึงแม้ว่า “แชนนิ่ง เททั่ม” กับ “ซัลมา ฆาแยก” จะเป็นมืออาชีพที่ช่วยสนับสนุนหนังเอาไว้ทั้งเรื่องอย่างเต็มที่ ต้องยอมรับว่าเคมีของทั้งคู่เข้ากันได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจดี และเข้าขากันได้ดีในหนังเรื่องนี้ ถึงตัวบทจะยังรู้สึกงงๆ ไปหน่อยก็ตามดี และพวกเขาก็เป็นองค์ประกอบที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้อยู่
โดยส่วนตัวลึกๆ แล้วนั้น Magic Mike’s Last Dance ทำให้รู้สึก “impressed” ได้ดีแค่ในช่วง 10 นาทีแรก กับ 15 นาทีสุดท้ายของหนัง แต่ระหว่างทางจากนั้นเหมือนเป็นเพียงแกงที่เต็มไปด้วยน้ำเจิ่งนองเกินจำเป็น บทหนังภาคนี้อาจจะกระท่อนกระแท่นไปสักหน่อย ไม่มั่นคงเท่ากับภาคก่อนหน้านี้ แต่ยังคงได้นักแสดงนำมาช่วยค้ำจุนเอาไว้ได้อยู่
รับชมตัวอย่างหนัง : Magic Mike’s Last Dance
ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim