รีวิว Mask Girl
รีวิว Mask Girl ตัวซีรีส์มีทั้งหมด 7 ตอน ในช่วงแรกเป็นการเล่าผ่านสายตาของคาแรคเตอร์หนึ่งตัวต่อหนึ่งตอน เริ่มจากตัวเอกคิมโมมีที่อยากเป็นไอดอลแต่หน้าตาไม่สะสวย ดีว่าเธอหุ่นแซ่บ จึงใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าและไลฟ์โชว์ออนไลน์เรียกเงินและความนิยมได้มหาศาล ว่ากันตามจริงเธอมีความชำนาญทั้งการเต้นและการร้องเพลงตลอดจนให้ความบันเทิงผู้ชมของเธออย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ติดแค่เรื่องหน้าตาเท่านั้น ซึ่งก็เสียดสีความหมายของคนบันเทิงได้น่าสนใจ การซ่อนความลับในโลกหลังหน้ากากและโลกที่ไร้หน้ากากซึ่งเธอเป็นเพียงสาวออฟฟิศสุดเหินห่าง จึงเป็นที่มาที่ทำให้เธอไปพัวพันกับการฆาตกรรมชวนขำขื่นในที่สุด
จากนั้นเราก็จะได้เห็นเรื่องราวเดียวกันจากอีกคาแรคเตอร์ที่ในสายตาของคิมโมมีจากตอนแรกไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน ทำให้ผู้ชมจึงเพิ่งได้รู้ว่าเหตุการณ์หลายอย่างมีตัวละครอื่นขับดันอยู่เบื้องหลังด้วยก็ตอนนี้เอง เป็นกลวิธีการเปลี่ยนมุมเล่าเรื่องที่ฉลาด เรื่องราวจะถูกเล่าผ่านสายตาตัวละครอื่นสลับกันไปอีกประมาณ 2-3 ตอน ก่อนจะเริ่มมีการเล่าแบบใช้เส้นเรื่องเหลื่อมเวลามาเล่าขมวดในช่วงครึ่งหลังได้อย่างเข้มข้น
ว่ากันถึงตอนนี้ต้องบอกว่าตัวซีรีส์มีการปรับเปลี่ยนที่ดีพอสมควร สามารถกลบจุดอ่อนเดิมจากตัวเว็บตูนที่บุคลิกตัวละครคิมมีโมจะไม่ค่อยน่าเอาใจช่วยนัก ให้มาดูน่าสงสารและดูชะตาเล่นตลกกับเธอมากกว่าจะกระทำตัวเอง และด้วยการปูเรื่องช่วงต้นของซีรีส์ก็ต้องบอกว่าคนที่ไม่ค่อยคุ้นกับหนังแนวนี้อาจจะงง ๆ สักนิดว่ามันจะอารมณ์ไหน ดูจิต ๆ ดาร์ก ๆ แต่ก็มีความโบ๊ะบ๊ะขำพอประมาณ แต่ถ้าใครชินกับแนวตลกร้ายหน้าตาย นี่คืออะไรที่บันเทิงมาก ๆ
ถ้าจะให้พูดโดยรวมว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นหนังแนวไหนก็ต้องบอกว่าเป็นแนว Dark comedy เสียดสีสังคมร่วมสมัย ที่มีพลอตประชดประชันความหมายของแม่ลูกซ้อนหลังอยู่ในที แต่ละตัวละครนำเสนอปมแม่และลูกได้อย่างน่าสนใจว่าเด็กคนหนึ่งจะโตขึ้นมาเป็นคนแบบไหนจากความคิดของแม่ที่ต่างกัน ซึ่งเราอาจจะแบ่งย่อยแนวของซีรีส์ลงไปอีกตามใบหน้าของคิมโมมีที่เปลี่ยนไปตามท้องเรื่องจากทั้งการศัลยกรรมและการแก่ชราได้อีกที
ในตอนต้นที่เป็นการแสดงของ อี ฮันบยอล นักแสดงหน้าใหม่ที่เล่นได้ตลกหน้าตาย ก่อนจะได้โชว์ระเบิดพลังความน่ารัดทดในช่วงปลายจนเรารู้สึกเห็นใจเธอ มันคือเรื่องราวแบบ Dark comedy สนุก ๆ ปนเปด้วยมนุษย์ที่มีความป่วยทางจิตหลายรูปแบบที่อยู่ปะปนกัน
ต่อมาเมื่อเปลี่ยนนักแสดงเป็น นานะ (Nana) อดีตไอดอลวง อาฟเตอร์สกูล เธอก็เป็นคิมโมมีที่ดูจิตกว่าเดิม แต่ก็เท่และน่าเอาใจช่วย ซีรีส์เปลี่ยนโทนเป็นหนังแบบแอนตี้ฮีโร่ไปเลย เพราะได้เล่าช่วงของการชดใช้บาปของตัวละครและได้เห็นความอยุติธรรมในสังคมที่เรียกว่าคุกซ้อนเข้าไปอีกชั้นจนเราเอาใจช่วย Kim Mommy ในขณะเดียวกันก็เสียดสีสังคมที่ยกย่องฆาตกรต่อเนื่องที่หน้าตาดีให้เป็นไอดอลไปพร้อมกัน
ในขณะเดียวกันมันก็มีความเป็นตลกร้ายอยู่จากการแสดงของ ยุมฮเยรัน (Yum Hye-Ran) ในบท Kim Kyung Ja คุณแม่ดายฮาร์ดยอดนักสู้ที่ทำทุกได้เพื่อลูกชายอย่างโคตรเจ๋ง กลายเป็นตัวละครฝั่งตรงข้ามตัวเอกที่เราทั้งรักทั้งชังตลอดเวลาและพูดไม่ได้ว่าเป็นตัวร้ายของเรื่อง ใครเคยอ่านมังงะ ‘มายโฮมฮีโร่’ น่าจะรู้สึกกลิ่นความมันในระดับเดียวกันได้เลย
และสุดท้ายซีรีส์ได้ข้ามเวลามาสู่การรับบทคิมโมมีของ Go Hyun Jung ดาราใหญ่ที่เคยคว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมแห่งปีมาแล้วจากซีรีส์ ‘ซอนต็อก มหาราชินีสามแผ่นดิน’ ตัวซีรีส์ก็เปลี่ยนแนวมาเป็น Drama Thriller เข้มข้นจนนึกว่าเป็นภาคต่อของหนังตระกูลล้างแค้นของผู้กำกับดัง ปาร์ก ชานวุก อย่างไรอย่างนั้นเลย ใครชอบอะไรแบบนี้จะรู้สึกสะใจมาก ๆ
นี่เลยเป็นซีรีส์ที่ดูได้หลากหลายโหมด และน่าชื่นชมในกลวิธีการเล่าเรื่องที่ฉลาดปรับเปลี่ยนแก้จุดอ่อนจากซีรีส์ได้ดี รวมถึงคุมธีมอารมณ์ไปได้อย่างกลมกล่อมชวนติดตาม มีการแสดงที่น่าสนใจผ่านพัฒนาการตัวละครคิมโมมีที่เข้มข้น โดยเฉพาะที่จับใจมาก ๆ ก็คงเป็นความตรึงตาตรึงใจแต่จิต ๆ ร้าย ๆ ของ นานะ ที่สวยเท่สะกดจริง ๆ และการแสดงกับตัวละครที่ช่วยให้หนังมีรสซาบซ่าอย่าง คิมคยุงจา คุณแม่ดายฮาร์ดที่ออกมาแต่ละทีมีเรื่องได้ตลอด รวมถึงการเฉลยความจริงยอกย้อนหักมุมหลอกคนดูและคาแรคเตอร์ได้มันเอามาก ๆ แถมได้ข้อคิดอะไรติดตามให้ไปถกกับคนอื่นได้สนุกไม่น้อยเลย
รับชมตัวอย่างหนัง : Mask Girl
ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim