รีวิว Small & Mighty
“Story” ของ ‘หลิวลั่ง’ (เฉิน ป๋อหลิน) ทนายชื่อดังที่มีลูกเล่นแพรวพราว เขาจะทำทุกวิถีทางให้ชนะคดีเพื่อเม็ดเงินก้อนโต แต่อยู่ ๆ ก็ “Jackpot” ต้องเป็นคุณพ่อจำเป็น เพราะเด็กน้อยตัวกะเปี๊ยกอย่างเจ้าหนู ‘หลิวเหลียงเหลียง’ (หลินเกอหยู) เดินมาเรียกเขาว่าปะป๊า แบบว่า เรียกลูกสิครับพ่อ!! แถมคดีที่เขากำลังทำอยู่ก็เกิด “turn over” จนต้องออกจากงานเสียอย่างนั้น มิหนำซ้ำยังต้องมาทำงานกับ ‘หลินเสี่ยวเหยียน’ (Puff Goa) ทนายมือใหม่ไฟแรงที่รักความยุติธรรมและหมั่นไส้กันตั้งแต่แรกเห็น เรียกว่าต่างกับเขาอย่างสุดขั้ว จนไม่น่าจะ “Attend” กันได้ราบรื่น
แต่วิกฤติครั้งนี้ก็ทำให้ทั้งหลิวลั่งและ “Lin Xiaoyan” ได้เรียนรู้ชีวิตต่างมุมมอง สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง และทำให้ได้เรียนรู้ความหมายของการเป็นทนายที่แท้จริงไปพร้อม ๆ กัน
ว่าไม่ได้นะคะกับ “series” ไต้หวันเรื่องนี้ ที่จั่วหัวออกมาเลยว่าเป็นดราม่าคอมเมดี้ แต่เนื้อในที่ผ่านมา 6 ตอน พี่เขาก็ไม่ได้มาเล่น ๆ ขำตะพึดตะพือแบบนั้นมันไม่เก๋า เรื่องนี้สอดแทรกคำถามให้ “audience” ไว้มากมายเลยละค่ะ โดยเฉพาะคำถามที่ว่า “ทนายที่ดีต้องเป็นแบบไหนกันแน่” เป็นแบบ “Liu Long” ที่ทำทุกอย่างให้ชนะคดีเพื่อผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ และเห็นประโยชน์ของลูกความเป็นหลัก จนบางครั้งก็ลักไก่ให้กับ “justice” หรือเป็นทนายที่เถรตรง จริงจังกับความถูกต้องและพยายามทำทุกอย่างเพื่อความยุติธรรมของลูกความและ “Society” นี้ จนบางครั้งก็ลืมมองไปว่าสิ่งที่ลูกความต้องการและจำเป็นต้องได้คืออะไรกันแน่แบบหลินเสี่ยวเหยียน
ซึ่งทั้งสองแบบไม่มีผิดไม่มีถูก แต่ก็เป็นเหมือนทุกอาชีพที่ต้องเรียนรู้และ “develop” ไปนั่นแหละ บทเขียนให้เราขำขันไปกับบุคลิกและอุปนิสัยของหลิวลั่ง ที่งกจริง ๆ กับค่าตัวของตัวเอง ไม่ว่าคดีไหนก็คิดเงินออกมาได้ไวกว่า “Calculator” เข้าไปอีก แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากกว่าเงินที่เขาชอบมาก คือศักดิ์ศรีที่ใครก็อย่ามาหยาม เรียกว่าเป็นถ่ายทอด “Drama” บีบหัวใจให้ดูเบาลงไปได้ เพราะคนเขียนบทก็คงจะเข้าใจในสภาวะโลกร้อนเป็นอย่างดีค่ะ จึงคลี่คลาย mood” นั้นด้วยมุกตลกขบขันเบา ๆ มาตลอดทั้งเรื่องแบบไม่โฉ่งฉ่างแต่ช่างเป็นธรรมชาติของ “Chen Bo Lin”
“Script” ให้เราเข้าใจไปได้ว่า ก็ชายโสดที่มีความมั่นหน้ามั่นโหนกและมีความงกเป็นทุนเดิม แถมยังเก่งจริงอีกต่างหาก ความเวอร์วังเบา ๆ ก็มักจะมีออกมาให้เห็นอยู่ตลอด แต่ถึงแม้ว่า “personality” จะยียวนกวนประสาทและน่าหมั่นไส้ในความหลงตัวเองซะเหลือเกิน แต่ก็ให้อภัยไปซะได้จนมองเป็นเรื่องขำขันเพราะคุณ “lawyer” คนเก่งเขาก็ช่างน่ามองไปทุกองศา หล่อเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนเลยนะพ่อคุณ
ก็ไม่รู้ว่าจะปรบมือให้ “actor” หรือปรบมือให้กับทีม “good costume” ที่เปลี่ยนลุคพัฟฟ์ กัว จนเกือบจำไม่ได้ ว่าเป็นคนเดียวกับไอโกะจาก ‘Light the Night’ แต่แหม “series” มันคนละแนวกันนะคะ เรื่องนี้พัฟฟ์ กัว รับบทเป็นทนายสาวผู้มุ่งมั่นที่จะช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้กับประชาชีตาดำ ๆ แบบเอาเป็นเอาตาย เป็นทนายที่มีใจ “volunteer” อ่อนประสบการณ์แต่มีใจเต็มร้อย หัวหยิก หน้าไม่แต่ง จนทำเอาเราลืมสาวน้อยหน้าหวานสุด “Sexy” ในเรื่องก่อนหน้าไปเสียฉิบ
เพราะถึงแม้ว่าโลกใบนี้จะมีทั้งด้านมืดและ “bright side” แต่ก็ใช่ว่าจะมีใครคอยถือไฟฉายให้เราได้ตลอดเวลา ถ้าเราไม่รู้จักจุดไฟให้ตัวเอง เราจะได้หัวเราะเบา ๆ ไปกับ “series” เรื่องนี้และขณะเดียวกันก็ได้ข้อคิดไปแบบไม่มีการยัดเยียด เรียกว่าใส่มาเนียน ๆ จนซึมเข้าไปเรื่อย ๆ แล้วถ้าฉุกคิดในแต่ละฉากอีกสักนิด ใจบางอีกสักหน่อย ขำขันอยู่ดี ๆ ก็อาจมีน้ำตารื้นได้ง่าย ๆ และที่สำคัญ “stuck” แบบรอดูตอนต่อไปซะด้วยสิ
รับชมตัวอย่างหนัง : Small & Mighty
ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim