รีวิว TÁR ทาร์
รีวิว TÁR ทาร์ ทาร์ เป็นเรื่องราวของ “Lydia Tarr” ผู้ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในนักนักเขียนและวาทยกรที่ดีที่สุดคนหนึ่งที่ยังคงมีชีวิตอยู่ และเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ได้รับหน้าที่หัวหน้าวาทยกรของวงออร์เคสตราที่ยิ่งใหญ่ของ German โดยมีฉากหลังเป็นดนตรีคลาสสิคระดับโลก แต่เบื้องลึกชีวิตของเธอช่างเต็มไปด้วยความลึกซึ้งเข้าใจยาก ทั้งในรูปแบบทางกายและสภาวะทางจิต
นับว่าการกลับมาสู่สังเวียนหลังกล้องอีกครั้งของผู้กำกับยอดฝีมือ “Todd Field” นับตั้งแต่ผลงานล่าสุดที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันของเขา อย่าง ‘ซ่อนรัก’ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เขาก็เว้นว่างและห่างหายไปจากการทำหนังไปเสียนาน แล้วกลับมาอีกครั้งในปีนี้กับการโชว์ความสามารถได้อย่างสุดพลัง คุ้มค่ากับช่วงเวลาที่เขาหายไปเก็บรวบรวมพลังเอาไว้อยู่นับทศวรรษ
แน่นอนว่าเขารับหน้าที่ทั้ง directed และเขียนบทหนัง รวมทั้งยังอำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเองเช่นเคย และนับว่าเป็นการละเลงบทหนังที่เต็มไปด้วยชั้นเชิงและกลเม็ดวิธีการดำเนินเรื่องที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี ต้องยอมรับว่า TÁR มีหน้าหนังที่คนดูหนังทั่ว ๆ ไปแทบจะไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำ เพราะเหมือนมีรูปแบบเฉพาะในหนังมากกว่าหนังพาณิชย์ทั่ว ๆ ไป แต่ปรากฏว่าหนังมีบทที่สามารถตีความหมายได้กับคนดูได้ดีกว่าที่คิด เพียงแค่ต้องฝ่าฟันไปสักหน่อย
ต้องปรบมือให้กับงานกำกับของ Todd Field จริง ๆ นี่คือการ comeback ที่แสนคมคายของเขาเลยทีเดียว มุมภาพและไดเรกชั่นการตัดต่อต่าง ๆ ช่างเฉียบคมและ วิเศษงดงามตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์มุมภาพที่แปลกตา แต่ไม่แปลกมหัศจรรย์ งานดีไซน์โปรดักชั่นผ่านวิสัยทัศน์ของเขาก็เต็มไปด้วยความทะเยอะทะยานควบคู่กับไปเหตุการณ์ของตัวละครได้อย่างกลมกลืน
TÁR ได้เข้าชิงออสการ์ปีนี้ถึง 6 สาขา แม้ว่าจะแอบรู้สึกเสียดายไปอยู่หนึ่งสาขาที่หนังน่าผิดคลาดไปหน่อยไม่มีชื่อติดโผด้วย นั่นก็คืองานเทคนิคด้านเสียง ที่ถือว่าหนังเรื่องนี้โดดเด่นในองค์ประกอบอยู่ไม่น้อย เพราะเสียงกลายเป็นหนึ่งส่วนที่หนังหยิบมาใช้ในการแสดงแทนอารมณ์ภายใต้จิตใจของตัวละครในหลาย ๆ ช่วง รวมทั้งการรวมเสียงต่าง ๆ เข้าด้วยกันก็กลมกล่อมดี เมื่อต้องมาผนวกเข้ากับจังหวะบรรเลงเพลงคลาสสิกสุดอลังการ
อีกทั้งยังมีงานเพลงบรรเลงประกอบที่มีลายเซ็นเข้าใจได้ง่ายจัดจ้าน ที่ฟังแค่โน้ตแรกก็รู้เลยว่าเป็นฝีมือของ “Hildur Güdnadothier ” นักประพันธ์หญิงที่กำลังมาแรง และงานเพลงของเธอก็เหมาะเจาะกันแบบสุด ๆ การผสมผสานดนตรีแบบมีศิลปะเข้ากับเทคนิคเพลงร่วมสมัย เป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่เป็นลักษณะเฉพาะของนักแต่งเพลงผู้นี้ แม้จะเสียดายอีกเช่นกันที่เธอไม่ได้มีชื่อติดโผเข้าชิงรอบสุดท้ายของออสการ์ปีนี้
และเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า Cate Blanchett ยืนหนึ่งทางด้านการแสดงของหนังเรื่องนี้แบบไม่มีใครเทียบรัศมีได้เลย เธอสามารถแบกหนังความยาว 2 ชั่วโมงครึ่ง แบบคนเดียวทั้งเรื่องได้สบาย ๆ มา นี่แหละ…มืออาชีพตัวจริง ไม่สามารถยอมรับได้เลยว่าการแสดงของเธอคือที่ดี ซึ่งระยะการแสดงของเธอนั้นแทบจะไม่มีจุดไหนที่ติความสามารถได้เลย ทุกอย่างช่างลื่นไหลไปตามท่วงทำนองจริง ๆ
ดังนั้น ถ้าหากว่าคุณมีพื้นฐานและความพิเศษเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิกดั้งเดิมอยู่นั้น ก็น่าจะเอ็นจอยกับ TÁR ได้ดีนับตั้งแต่นาทีแรกของหนังเรื่องนี้ พร้อมกับไต่ระดับความสนุกขึ้นไปเรื่อย ๆ กับความสุดโต่งของตัวละครที่ทำให้เราหลงรักเธอแทบไม่หลง แต่หากว่าคุณไม่ใช่สายดนตรีคลาสสิก หรือฟังเพลงแนวนี้แล้วรู้สึกง่วง อาจจะต้องตั้งใจกัดฟันฝ่าฟันช่วงแรก ๆ ของหนังไปได้ และการันตีได้เลยว่า…ถ้าคุณผ่านมันไปได้ หลังจากนั้นจะได้พบเจอกับความบันเทิงแบบคุณภาพเลยทีเดียว
รับชมตัวอย่างหนัง : รีวิว TÁR ทาร์
ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim