รีวิว Thai Cave Rescue ถ้ำหลวง: ภารกิจแห่งความหวัง
รีวิว Thai Cave Rescue ถ้ำหลวง: ภารกิจแห่งความหวัง อีกหนึ่งผลงาน “inspiration” จากเรื่องที่เกิดขึ้นจริงระดับโลกในเมืองไทยอย่าง 13 ชีวิตทีมหมูป่าแห่งถ้ำหลวง และถ้าว่าตามสิ่งต่าง ๆ การสร้างนี่อาจเป็นโปรเจกต์ที่น่าคาดหวังมาก ไม่ต่างจากชื่อเรื่องภาษาไทยของซีรีส์ที่ว่า ‘ภารกิจแห่งความหวัง’ แต่อย่างใดเลย
ไม่ว่าจะเป็นผลงานจาก “Netflix” ที่ทุ่มทุนไปสู้ล่าลิขสิทธิ์เรื่องราวถ้ำหลวงผ่านทางรัฐบาลไทย คือได้เรื่องราวฝั่งคนในพื้นที่แบบเต็มที่เพียงเจ้าเดียว ซึ่งแต่เริ่มต้นมันก็เป็นดาบสองคมที่ทีมสร้างรับมาถือไว้ มองในแง่หนึ่งมันจะน่าสนใจและสมบูรณ์ครบถ้วนมากหากดราม่าฝั่งเด็กและครอบครัวทำงานดี และเรื่องราวของพวกเขาน่าสนใจพอจะแบกหนังให้คนอิน โดยไม่ต้องไปแข่งกับเรื่องภารกิจการช่วยชีวิตมากนัก
โดยตั้งผู้กำกับดังอย่าง จอน เอ็ม. ชู (Jon M. Chu) จาก ‘เครซี่ ริช เอเชี่ยนส์ เหลี่ยมโบตัน’ (2018) มารับบทโปรเดิวเซอร์ และพัฒนาบทซีรีส์ด้วยคู่หูนักเขียนมากฝีมือคือ ไมเคิล รัสเซล กันน์ (Michael Russell Gunn) และ ดานา เลอดูกซ์ มิลเลอร์ (Dana Ledoux Miller) ที่เคยมีผลงานเขียนบทซีรีส์ระดับโลกทั้งใน ‘The Newsroom’ และ ‘เดสซิกเนเทต เซอร์ไวเวอร์’ มาแล้ว
และเพื่อเติมเต็มความเข้มแข็งจากมุมมองแบบคนไทยที่มีความสากลด้วย จึงไปดึงผู้กำกับไทยที่ผลงานกำลังอยู่ในช่วงที่ขึ้นหม้อสุดอย่าง บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ จาก ‘ฉลาดเกมส์โกง’ และ ‘One For The Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ’ มาผลัดมือกันกำกับ กับผู้กำกับระดับอินเตอร์สายเลือดไทย เควิน ตันเจริญ จาก ‘ชี.ล.ด์. ทีมมหากาฬอเวนเจอร์ส.’ โดยได้นักแสดงชั้นนำฝั่งไทยอย่าง ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์ และนักแสดงชายผู้ล่วงลับที่เคยมีผลงานโดดเด่นในเน็ตฟลิกซ์อย่าง บีม-ปภังกร ฤกษ์เฉลิมพจน์ มาร่วมแสดงนำด้วย
เอาที่ว่ามา ประกอบกับความเป็นซีรีส์ถึง 6 ตอนทำให้มีเวลาเล่าเรื่องมากกว่าคู่แข่งฝ่ายตรงข้ามที่เป็นหนังเรื่องยาว ก็ต้องบอกว่านี่คือผลงานถ้ำหลวงที่คนไทยจะคาดหวังมากที่สุดก็ไม่แปลกเลย
น่าสนใจว่าด้วยความมาทีหลังจึงต้องหา “novelty” ไม่เหมือนกัน จะเน้นความสดก็สู้ ‘The Cave’ (2019) ที่ออกมาก่อนใครเพื่อนไม่ได้ จะเน้นหนักกับเรื่องราวที่สมจริง (กว่า) เพราะได้สิทธิ์เต็มในเรื่องราวโดยเฉพาะฝั่งพวกเด็ก ๆ และโค้ชเอก แต่ก็คงสู้พวกหนังสารคดีที่ได้เรื่องราวฝั่ง “Mission” สุดตื่นเต้นของทีมต่างชาติผู้มาช่วยชีวิตในหนัง ‘The Rescue’ (2021) ไม่ได้อีก หรือจะไปทางเน้นซีเนมาติกเป็นบันเทิงฮอลลีวูดไปเลย เอาดาราชั้นนำของไทยอย่างญาญ่ามาขาย แต่ก็ไม่น่าจะไปวัด “level” กับรอยเท้า ‘สิบสามชีวิต’ (2022) ฉบับของผู้กำกับออสการ์ Ron Howard ที่ชิงตัดหน้าไปก่อน แถมได้ทั้งดาราระดับฮอลลีวู้ดผสมแนวหน้าของไทยจนทิ้งห่างไปเลยเรื่องดารา มองแล้วสิ่งที่ ‘Tham Luang: ภารกิจแห่งความหวัง’ ยังมีเหลือพอให้โดดเด่นน่าติดตามอยู่บ้างแต่อาจเป็นแค่ความเป็นซีรีส์ที่มีเวลาในการเล่ามากกว่าเพื่อน
จุดแข็งจุดอ่อนเหล่านี้ทีมสร้างที่มีความสามารถไม่ธรรมดาทีมนี้ก็รู้ดี และพวกเขาก็สามารถเลือกช่องที่จะแทรกตัวให้มีที่ยืนในบรรดาหนังภารกิจถ้ำหลวงได้ นั่นคือเอาแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงบางส่วนมาผสมกับการอธิบายสถานการณ์ให้รอบด้านหลายแง่มุมแทนที่จะมองไปที่ทีมช่วยเหลือใดทีมหนึ่ง ก็นำเสนอทุกทางเลือกที่มีเลยจะเจาะถ้ำจากด้านบน จะเอาน้ำออกจากถ้ำให้แห้ง
จะทำที่พักไม่ถาวรในถ้ำรอจนหมดหน้ามรสุม หรือจะฝึกให้พวกเด็กดำน้ำออกมาเหมือนพวกนักดำน้ำ ฯลฯ แล้วเอาแนวทางแบบดราม่าการเมืองที่เน้นเป้าหมายการตัดสินใจและล็อบบี้ในวอร์รูมห้องประชุมมาเป็นสถานที่หลักของเรื่อง แทนที่จะไปให้ความสนใจแค่ในถ้ำอย่างเดียว ซึ่งก็คงเหมาะสมกับทีมเขียนบทอย่างกันน์และมิลเลอร์ที่ช่ำชองพิสูจน์ตัวในแนวหนังแบบนี้มาก่อนแล้ว
แต่จะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่สับสนวุ่นวายโกลาหล มีผู้เกี่ยวข้องหลักพันคนไม่ใช่เรื่องง่าย ประกอบกับสิทธิ์ในเรื่องฝั่งครอบครัวของทีมฟุตบอลมันได้แค่ดราม่าแต่มันไม่ได้เรื่องความสนุกน่าติดตาม ทีมสร้างจึงน่าจะตัดสินใจว่ามันต้องการฟันเฟืองช่วยเล่าเรื่องให้สนุกขึ้นนั่นคือ ตัวละครสมมติที่ตั้งขึ้นมา และเรื่องราวสมมติบาง “scene” ให้มันประสานเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ไหลลื่นขึ้น และนี่คือจุดเริ่มต้นของดาบสองคมอีกเล่มที่ผู้สร้างปักใส่ซีรีส์
ด้วยสิ่งที่ว่ามาจึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าบางทีถ้าหนังบอกว่าเป็นภารกิจสมมติใหม่ ไม่ใช่ถ้ำหลวง “character” ที่ติดถ้ำก็มีแค่ไม่กี่คนเพื่อโฟกัสอารมณ์ท่วมท้นมีดราม่าเอาให้หนักหน่วง อาจจะกลายเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งเลยก็ได้ แต่เนื่องจากมันจะขายเรื่องจากเหตุการณ์จริง ก็ขอแนะนำคนที่พอเหมาะพอสมกันในการดูว่า ถ้าคุณเพิ่งเคยได้ยินว่าเคยมีทีมฟุตบอลติดถ้ำหลวงในประเทศไทยแล้วออกมาไม่ได้ และคุณก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น
รับชมตัวอย่างหนัง : ถ้ำหลวง
ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim