รีวิว The Queen’s Gambit
มินิซีรีย์ผลงานคุณภาพจาก Netflix ที่เล่าเรื่องราวการต่อสู้ชีวิตและการดำเนินไปด้วยเกมกระดานหมากรุก 36 ช่อง ที่กำลังจะเปลี่ยนชีวิตพลิกชะตาฝันให้กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เริ่มต้นที่ “เบธ ฮาร์มอนด์” ที่เดิมมีปมฝังใจเกี่ยวกับครอบครัวมาตลอด ภายหลังเธอต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าและถูกส่งตัวไปสถานรับเลี้ยงเด็ก ซึ่งที่นั่นเธอได้รู้จักกับ “โจลีน” เพื่อนสาวคนแรกที่สนิทด้วย ที่นี่มีการจ่ายยากล่อมประสาทให้เด็ก ๆ จนทำให้เบธเสพติดยานั่น
แต่ภายหลังพวกเขาก็ไม่ได้จ่ายยาอีก อาการลงแดงของเบธเริ่มออกอาการชัดขึ้นจนเธอต้องหายาอยู่เรื่อย ๆ และเธอก็เสพติดมันจนโต วันหนึ่งเบธได้เจอกับ “มิสเตอร์โชเบล” ภารโรงที่นั่งเล่นหมากรุกคนเดียวที่ห้องใต้ดินและกลายเป็นครูคนแรกที่ทำให้เธอได้รู้จักกับเกมนี้ พรสวรรค์ของเบธนั้นเฉิดฉายและเขานั้นต้องการผลักดันเธอ เพราะเขาเชื่อมั่นว่าเธอต้องไปได้ไกลในวงการนี้นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เบธได้รู้จักความรักของผู้ที่เป็นเหมือนพ่อคนหนึ่ง หลังจากนั้นเธอได้ถูกรับเลี้ยง แต่ก็เกิดเรื่องเศร้ามากมายในชีวิตของเธอ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยละทิ้งมันนั่นคือการเล่นหมากรุก ความหลงใหลนำพาให้เบธเข้าลงแข่ง และความสามารถที่โดดเด่นทำให้เธอได้กลายเป็นตัวแทนของสหรัฐอเมริกาที่ต้องเจอกับเซียนหมากรุกของโซเวียตอย่าง “วาซิลี บอร์กอฟ” ซึ่งเป็นเวลาที่เกิดสงครามเย็นที่ทั้งสองมหาอำนาจพยายามห่ำหั่นในทุกการประลอง
นี่เป็นซีรีย์เกี่ยวกับหมากรุกที่ไม่ค่อยพบเห็นนักในปัจจุบัน และถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่เลยทีเดียว ขนาดที่ว่าหลายคนดูซีรีย์เรื่องนี้จบแล้วอยากลองเล่นหมากรุกขึ้นมาเหมือนกัน การเล่าเรื่องที่เป็นเส้นตรงตามฉบับหนังประวัติศาสตร์เรื่องนี้ไม่น่าเบื่อเลยสักซีนเดียว เพราะมีการใช้เสน่ห์ของตัวละครเข้าช่วย
อีกทั้งไดอาล็อคของแต่ละตัวละครนั้นเต็มไปด้วยความน่าสนใจ ไม่เรียบง่ายเกินไป น่าติดตาม และสิ่งที่ไม่ชมไม่ได้เลยคือทีมโปรดักชันที่สามารถสรรสร้างทั้งฉากและเครื่องแต่งกายออกมาได้สมจริง แม้จะเป็นฉากการแข่งขันเล็ก ๆ ยังใส่ใจรายละเอียดเป็นอย่างมาก ฝีมือนักแสดงก็ทำออกมาได้เยี่ยมยอดทั้งตัว “เทย์เลอร์ จอย” เองสามารถดึงปมในใจของสาวน้อยฮาร์มอนด์ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ข้อพิจารณาสำหรับเรื่องนี้คิดว่าน่าจะเป็นฉากเลิฟซีนที่พระนางยังไม่มีเคมีที่ลงตัวเสียเท่าไรมากกว่า
ชมตัวอย่าง : The Queen’s Gambit