รีวิว The Sandman
รีวิว The Sandman ‘The Sandman’ ผลงานของ นีล ไกแมน (Neil Gaiman) เป็นกราฟิกโนเวลไม่กี่เรื่องที่ได้รับการยอมรับให้ติดอันดับหนังสือขายดีของ นิวยอร์กไทม์ส ทั้งยังถูกขนานนามว่าคอมมิกของเหล่าปัญญาชน จนกลายเป็นหนังสือแนะนำของหลายสำนักเคียงคู่กับผลงานขึ้นหิ้งอย่าง ‘ศึกซูเปอร์ฮีโร่พันธุ์มหากาฬ’ ของอลัน มัวร์ (Alan Moore) และ ‘แบทแมน : เดอะดาร์กไนท์รีเทิร์นส์’ ของ แฟรงก์ มิลเลอร์ (Frank Miller)
อาจด้วยเป็นผลงานที่เน้นเด็กวัยกำลังเติบโตจนถึงผู้ใหญ่มากกว่า มันจึงขับเน้นด้วยเรื่องราวของปรัชญาและการต่อสู้ของเหล่านามธรรมที่กระทบมาถึงโลกมนุษย์ และด้วยการตีพิมพ์ลงในหัวหนังสือของ Vertigo Comics ค่ายสายมืดเน้นโหดของสำนักพิมพ์ DC ที่มีผลงาน อาทิ ‘เฮลล์เบลเซอร์’ (หรือรู้จักดีในชื่อ ‘จอห์น คอนสแตนติน’) ด้วยแล้ว พูดแบบนี้ก็น่าจะพอจับโทนของ ‘The Sandman’ ได้บ้างว่ามันจะไม่ใช่หนังหรือนิยายภาพแนวซูเปอร์ฮีโร่ตีกันแบบสมัยนิยมตามที่ใครบางคนคาดหวังแน่ ๆ
แต่ถ้าคุณกำลังมองหาอะไรที่ดึงดูดใจให้สมองได้ขบคิดเยอะ ๆ ผ่านภาพแฟนตาซีสุดติ่งจินตนาการอย่างใน ‘Watchmen’ หรืออยากหาแนวดาร์กแฟนตาซีสยดสยองทั้งด้านภาพและเนื้อหาที่เปิดส่วนดำมืดของมนุษย์ออกมาได้น่ากลัวยิ่งกว่าผีห่าซาตาน อย่างใน ‘แบล็ก มิร์เรอร์’ นี่คือเรื่องที่คุณต้องโปรดปรานอีกเรื่องหนึ่ง
‘The Sandman’ เปิดเรื่องมาได้อย่างน่าประทับใจมาก ถึงแม้เราเคยได้อ่าน “plot” และบางส่วนของฉบับคอมมิคที่เริ่มด้วยพิธีอัญเชิญของพวกจอมเวทจนแอบกลัวว่าภาพมันจะออกมาเชยเกินไปหรือไม่ ทว่าเอาเข้าจริงทั้งงานซีจีและการออกแบบศิลป์ย้อนยุคไปราวปี 1900 ต้น ๆ ทำได้สวยงามมาก และการใช้เสียงบรรยาย ‘Thaythxd’ ของตัวเอกที่นำแสดงโดย ทอม สเตอร์ริดจ์ เองก็ดูขลังลึกลับน่าติดตามดี บทพูดก็ชวนให้อยากรู้ด้วยว่าเทพที่เป็นนามธรรมอย่างเช่น นิมิต (ความฝัน Dream Morpheus Sandman หรือเจ้าแห่งฝันร้าย มีชื่อเรียกหลากหลาย) นั้นมีความคิดอย่างไร
เขามองมนุษย์ที่ทำร้ายเขาอย่างไร (answer) ตามที่เสนอต่อความโลภส่วนลึกสุดของมนุษย์ที่แม้รู้ว่าจับเทพมาผิดองค์แต่ก็ยังต่อรองขอประโยชน์อื่น เช่น ความร่ำรวยและไม่แก่ไม่ตายแทนอย่างไร้ความละอายได้อย่างไร ยิ่งได้ขับเน้นผ่านการนำเสนอความเย็นชาแต่ดูหล่อเหลา และถ่ายทอดอารมณ์ปรวนแปรภายในใจผ่านดวงตาของสเตอร์ริดจ์ก็ชวนให้นึกถึง โรเบิร์ต แพตทินสัน (Robert Pattinson) ในบางมุม น่าจะมีสาวโดนตกอยู่ไม่น้อยทีเดียว
ที่สำคัญตัวเรื่องราวไม่ได้เดินไปตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก ขาวหรือดำ ธรรมหรืออธรรม มันเต็มไปด้วยความซับซ้อนฉ้อฉล ตัวละครมนุษย์ในเรื่องแต่ละตัวต่างเทา ๆ มีกิเลสบางอย่างมีผลประโยชน์ที่ถือครองและพร้อมจะทำร้ายผู้อื่นด้วยเหตุผลที่ฟังดูดีได้ ตรงนี้ทำให้เราดูไปและคิดพิจารณาว่าพวกเขามีแรงขับทางจิตวิทยาอะไรที่ทำให้เลือกตัดสินใจแบบนั้น และหลายครั้งเราพบว่ามันเป็นการนำเสนอมนุษย์ที่เหมือนจะไม่มีตรรกะ แต่ดันสมจริงเอามาก ๆ ทีเดียวเพราะใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึงเป็นธรรมชาติ ตรงนี้ทำให้ซีรีส์เต็มไปด้วยความน่าสนใจและน่าหลงใหลอย่างมาก
เนื้อหาของซีรีส์อาจแบ่งเป็นส่วนใหญ่ ๆ ได้หลายส่วน (first period) ตอนที่ 1-5 หรือครึ่งทางของซีซั่น เป็นการถูกกักขังของนิมิตและการเดินทางทวงคืนพลังของเขาที่ถูกซุกซ่อนในแห่งหนต่าง ๆ ทำให้เราได้พบตัวละครใหม่ ๆ ตัวซีรีส์ค่อย ๆ ให้เราได้เรียนรู้ไปพร้อมกันนี้ว่าภูมิหลังของโลกในเรื่องประกอบไปด้วยอำนาจเหนือธรรมชาติใดบ้าง
เราได้พบเทพชะตากรรมที่เห็นแจ่มแจ้งเป็นรูปลักษณ์ของหญิง 3 นาง เราท่องไปในดินแดนแห่งฝันและพบเหล่าความฝันผู้รับใช้นิมิตที่มีทั้งนอบน้อมและไม่เชื่อฟัง เราท่องไปในแดนนรกอันน่าหวาดระแวงและทนทุกข์ของลูซิเฟอร์และได้เห็นอดีตบางส่วนของนิมิต รวมถึงที่สุดเราได้เห็นว่าจิตใจอันบริสุทธิ์ของมนุษย์สามารถสร้างบาปได้มากขนาดไหน
เนื้อหาของซีรีส์อาจแบ่งเป็นส่วนใหญ่ ๆ ได้หลายส่วน (first period) ตอนที่ 1-5 หรือครึ่งทางของซีซั่น เป็นการถูกกักขังของนิมิตและการเดินทางทวงคืนพลังของเขาที่ถูกซุกซ่อนในแห่งหนต่าง ๆ ทำให้เราได้พบตัวละครใหม่ ๆ ตัวซีรีส์ค่อย ๆ ให้เราได้เรียนรู้ไปพร้อมกันนี้ว่าภูมิหลังของโลกในเรื่องประกอบไปด้วยอำนาจเหนือธรรมชาติใดบ้าง
เราได้พบเทพชะตากรรมที่เห็นแจ่มแจ้งเป็นรูปลักษณ์ของหญิง 3 นาง เราท่องไปในดินแดนแห่งฝันและพบเหล่าความฝันผู้รับใช้นิมิตที่มีทั้งนอบน้อมและไม่เชื่อฟัง เราท่องไปในแดนนรกอันน่าหวาดระแวงและทนทุกข์ของลูซิเฟอร์และได้เห็นอดีตบางส่วนของนิมิต รวมถึงที่สุดเราได้เห็นว่าจิตใจอันบริสุทธิ์ของมนุษย์สามารถสร้างบาปได้มากขนาดไหน
รับชมตัวอย่างหนัง : The Sandman
ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim
Facebook Fan Page
รีวิวหนังใหม่
รีวิวหนัง NETFLIX
