The Sea Beast
เรื่องราวเริ่มต้นที่ภาพอดีตในคืนอันมืดมิดกลางท้องทะเลอันเคว้งคว้างน่าพรั่นพรึงกลัว เด็กชายคนหนึ่งได้เกาะท่อนไม้จากเรืออับปางและทันใดนั้นเขาก็ได้เผชิญหน้ากับอสูรกลางท้องทะเลเป็นครั้งแรก ก่อนที่หนังจะตัดไปที่เสียงเล่านิทานปรัมปราจากเมซีเด็กสาวในบ้านเด็กกำพร้าที่หวังไว้ในวิถีแห่งนักล่าอสูร และโชคชะตาก็เข้าข้างเธอเมื่อเรือล่าอสูรนาม ‘Inevitable’ มาจอดเทียบท่าเพื่อเคลมเงินรางวัล งานนี้เธอจึงแอบลักลอบขึ้นเรือในตำนานและได้พบกับเจคอบ ฮอลแลนด์ ฮีโรในหนังสือของเธอ
แต่หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นอสูรแดงคำรามจู่โจมเรือจนทำให้เมซีกับเจคอบระหกระเหินอยู่กลางทะเล พวกเขากลับได้พบมิตรภาพที่ไม่คาดคิดจากอสูรที่พวกเขาเคยกลัว การผจญภัยครั้งใหม่ระหว่างอสูรแดงคำรามและนักล่าอสูรกับเด็กน้อยได้เริ่มขึ้นท่ามกลางเหตุที่อาจทำให้ถึงแก่ความตายจากเรือนักล่าอสูรที่อาจไม่เข้าใจในมิตรภาพครั้งนี้
ถึงแม้จะเป็น (Animation) ที่ทางเน็ตฟลิกซ์เป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง แต่ทีมงานเบื้องหลังก็ไม่ใช้ไม่เก่งแต่อย่างใด เพราะได้ คริส วืลเลียมส์ (Chris Williams) ผู้กำกับแอนิเมชันลูกหม้อดิสนีย์ (Disney) ที่เคยมีผลงานกำกับ ‘Big Hero 6’ มาแล้ว และก็ต้องยอมรับว่าวิลเลียมส์สามารถเก็บรวมกันเข้าทีละเล็กทีละน้อยเป็นอย่างดีหนังแนวผจญภัยกลางท้องทะเลกับสัตว์ประหลาดไคจูบุกเมืองเข้ากันอย่างกลมกล่อมลงตัว เล่าเรื่องราวได้สนุกสนาน บันเทิง ไม่ค่อยมีช่วงน่าเบื่อสักเท่าไหร่ได้ดีเลยล่ะ
โดยสิ่งที่ปรากฏชัดจนสะดุดตของเรื่องราวที่วิลเลียมส์ได้ร่วมเขียนส่วนหนึ่งก็คือการพิสูจน์และตั้งคำถามกับธรรมเนียมของประวัติศาสตร์ที่มักยกมนุษย์เป็นฮีโรผู้กอบกู้โลก หรือกระทั่งเขียนให้ชาวอารยันหรือกลุ่มคนขาวเป็นวีรบุรุษดังนั้นแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหม่โดยเฉพาะสิ่งที่ทำขึ้นเองของเน็ตฟลิกซ์ที่ชอบให้ “protagonist” มีชาติพันธุ์ที่มีหลายรูปแบบ ถ้าว่าการให้ตัวเอกเป็นสาวน้อยผิวสีก็ถือว่าเล่าเรื่องได้อารมณ์ศิลปะร่วมสมัยมากขึ้น อีกทั้งยังให้ (Character) ของเด็กดูฉลาดกว่าผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ เลยทำให้ภาพรวมของหนังออกมาน่ารัก ดูได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว
อีกจุดที่น่าคิดไม่น้อยคือการยกข้อความสำคัญของกษัตริย์มาพูดถึงในแง่องค์อุปถัมภ์การล่าปีศาจที่มองได้ตั้งแต่การเป็นชนชั้นปกครองที่ใช้ความกลัวเลี้ยงอำนาจตัวเองไปจนถึงการก่อระบบศักดินา ซึ่งมีเนื้อหาตอนหนึ่งที่ราชินีพูดถึงกองเรือล่าปีศาจของกษัตริย์เพื่อหวังจะดับความคิดที่จะทำและไม่ต้องพึ่งพาเหล่านักล่าปีศาจอาชีพอีกต่อไป จนเกิดการแข่งขันล่าปีศาจขึ้นระหว่างเหล่าตัวเอกกับทหารของกษัตริย์ ซึ่งหากหนังเล่นประเด็นไปไกลกว่านี้เราอาจได้เห็นการวิพากษ์ระบอบการปกครองที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่อย่างนั้นตัวหนังเองก็ยังติดเรื่อง ‘ท่าบังคับ’ หลายอย่างที่พามันไปไม่ถึงจุดที่จะทำให้ตัวหนังจุดเด่นมากกว่านี้ทั้งเหตุผลที่เปลี่ยนใจให้เจคอบผูกมิตรกับอสูรทะเล ที่อาศัยแค่ความไร้เดียงสาของเมซี หรือกระทั่งจุดที่น่าเสียดายมาก ๆ อย่างตัวละครที่น่าสนใจของลูกเรือ ‘Inevitable’ อย่างซาราห์ ชาร์ป ที่ชี้ทิศทางการเดินเรือสาวสุดเท่ที่มีลักษณะเฉพาะดูห้าว ๆ และน่าจะเป็นภาพลักษณ์ของฮีโรผู้หญิงในเรื่องได้แต่บทกลับยังดันคาแรกเตอรนี้ไปได้ไม่สุดเท่าไหร่
แต่อย่างไรก็ตามหากเทียบกับคุณภาพแอนิเมชันในภาพรวมนอกจากบทหนังที่เล่าได้สนุกสนานตามท้องเรื่อง ฉากแอ็กชันที่ทำได้ตื่นตาและรวมไปถึงงานภาพที่ได้คุณภาพไม่ต่างจากแอนิเมชันฉายโรงผสมบางช่วงตอนที่คล้ายภาพจากวิดีโอเกมคุณภาพสูงแล้ว ข้อเสียที่ได้ว่ามาทั้งหมดก็อาจไม่ได้ส่งผลกับตัวหนังสักเท่าไหร่เพราะในเวลา 115 นาทีมันก็ให้ทุกอย่างครบถ้วนทั้งความสนุกสนานจากฉากผจญภัย ความสดใสและน่ารักของอสูรตัวน้อยที่มองนาน ๆ อาจใจละลายก็พอจะยกประโยชน์ให้จำเลยได้แม้ตอนจบของมันจะไม่ได้เหนือความคาดหมายหรือแปลกใหม่เท่าไหร่ก็ตาม
รับชมตัวอย่างหนัง : The Sea Beast
ติดตามเพิ่มเติม : เว็บรีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : FlowtheFlim