รีวิว CUBE กล่องเกมมรณะ
มาถึงยุคนี้ที่วงการ “Japanese movie” จะต้องพยายามดีดตัวเองขึ้นไปอีกระดับ หลังจากที่มีประเด็นถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันไม่น้อย เมื่อถูกนำไปเปรียบเทียบกับวงการหนังและ “korean series” ที่ก้าวไปไกลระดับโลก และความพยายามยกระดับอีกครั้งก็น่าจะเกิดขึ้นกับ “CUBE” (กล่องเกมมรณะ) หนังระทึกขวัญไซไฟที่ “remake” สร้างมาจากหนังคัลท์สุดคลาสสิกแห่งยุค 90s แต่ความกล้าที่ไปแตะต้อง “performance” ระดับอมตะเช่นนี้…จะรุ่งหรือร่วงก็ตั้งอยู่แค่บนเส้นบางๆ เท่านั้น
CUBE กล่องเกมมรณะ เป็น “story” ของคนแปลกหน้าทั้ง 6 คน ฟื้นคืนสติขึ้นมาพบว่าตัวเองติดอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมทรงลูกบาศก์ ซึ่งมีประตูทั้งหกด้านที่นำไปสู่กับดัก “brutally” สุดอันตราย และทางรอดเดียวที่มีคือ ทุกคนต้องร่วมมือกันไขปมปริศนาลึกลับต่างๆ ที่ประดาหน้าเข้ามาแทบทุกนาที เพราะไม่เช่นนั้นพวกเขาทั้ง 6 ชีวิตจะต้องกลายเป็น “Person” สาบสูญที่ติดอยู่ในลูกบาศก์มรณะแห่งนี้ไปตลอดกาล
นี่คือผลงานใหม่ของ “director” หนุ่มไฟแรง “ยาสุฮิโกะ ชิมิซุ” ที่ถือว่าหนังเรื่องนี้เป็นชิ้นงานระดับบ็อกซ์บัสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เขาทำหนังมา และก็ดูเหมือนว่า “scale” หนังเรื่องนี้จะค่อนข้างใหญ่เกินไปที่เขาจะรับมือได้เพียงลำพัง จึงส่งผลกระทบต่อภาพรวมของทั้งตัวหนังที่กลายเป็นการถ่ายทอดในรูปแบบซ้ำๆ จำเจที่เป็น “remake version” ที่พยายามทำให้แตกต่างแต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมากลับไม่ต่างไปจากเดิมสักเท่าไหร่นัก
ต้อง “confess” ว่าจำได้แค่ลางๆ กับหนังเรื่อง “Cube” ต้นฉบับของแคนาดาที่เคยออกฉายไปในช่วงปลายยุค 90s ที่ต้นฉบับหนังเรื่องนั้นก็ไม่ใช่หนังแมสทั่วไปสักเท่าไหร่ เพราะตัวหนังเองก็มีวิธีการสื่อสารและ “Perspective” ที่เอนไปทางหนังนอกกระแสอยู่สักนิด เพียงแต่ “concept” และความคัลท์ของหนังได้ยกระดับให้หนังขึ้นหิ้งกลายเป็นหนังคลาสสิกเรื่องหนึ่งและยังเป็นหนังที่แฟนๆ คิดถึงอยู่เสมอ
แต่เมื่อนำมาดัดแปลงเป็น “version” หนังญี่ปุ่น องค์ประกอบหลายๆ อย่างได้ถูกนำมาประยุกต์และดัดแปลงใหม่ให้เข้ากับเทคโนโลยีในการทำหนังยุคปัจจุบันให้น่าตื่นตามากยิ่งขึ้น ต้องยอมรับว่างานสร้างของ “CUBE” ฉบับนี้ค่อนข้างทำออกมาได้ดี แม้จะมีแค่เพียงฉากลูกบาศก์ธรรมดาๆ แต่การ “design” และใส่ลูกเล่นเพิ่มเข้ามา ช่วยเติมเต็มความน่าสนใจได้ดีระดับหนึ่ง
ถึงกระนั้นแล้ว CUBE กล่อง “death game” ก็ยังไม่ใช่ “remake movie” ที่ทำออกมาได้ดีและยังไม่ใช่หนังที่่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ สิ้งแรกที่คิดก็คือไม่น่าเชื่อว่าญี่ปุ่นจะหยิบเอา “storyline” นี้มารีเมคสร้างใหม่ ทั้งที่ในอุตสาหกรรมหนังของตัวเองก็มีศักยภาพเพียงพอที่สามารถสร้างสรรค์หนังแนวๆ นี้ออกมาได้ดีกว่าด้วย เมื่อกลายมาเป็น “content” สร้างใหม่ จึงกลายเป็นว่าประเด็นต่างๆ ยังไม่เข้มข้นและไม่ถึงกึ๋นเหมือนกันดูหนังญี่ปุ่นปลอมๆ อยู่
แน่นอนว่าพื้นฐานของหนังรีเมค คือความสดและ “Exotic” แทบจะตัดออกไปได้เลย เพราะผู้ชมน่าจะพอทราบถึงโครงเรื่องคร่าวๆ แล้ว และพอมาในเวอร์ชั่นนี้ก็กลับให้ความรู้สึกที่ไม่ต่าง ถึงขั้นดูธรรมดาไปหน่อยด้วยซ้ำ “Brutality” ของกล่องเกมมรณะในครั้งนี้ก็ไม่ได้สยดสยองอะไรเท่าไหร่นัก กลายเป็น “corny image” ที่เคยเห็นมาแล้วทั้งสิ้น สถานการณ์ต่างๆ ก็มาพร้อมสูตรสำเร็จแบบเดิม กลายเป็นหนังที่ดำเนินเรื่องไปแบบแข็งทื่ออย่างน่าเสียดาย
ยิ่งมาเผชิญหน้ากับอารมณ์ของ “character” ต่างๆ ที่สถานการณ์บีบคั้นทำให้พวกเขาสติแตกมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้ CUBE กล่องเกมมรณะ กลายเป็นหนังที่ดูเรียบเฉยเข้าไปเรื่อยๆ ประเด็น “Drama” และปมต่างๆ ของตัวละครที่หนังใส่เข้ามานั้น มีแต่ความเชยและไม่ได้รู้สึกว้าวอะไรเลยสักนิด แน่นอนว่าหนังแนวๆ นี้มักจะมีสร้าง “character” ที่น่ารำคาญ ซึ่งในหนังเรื่องนี้ก็ทำได้สำเร็จและดูเหมือนจะน่ารำคาญในทุกๆ ตัวละครเสียด้วยซ้ำ
“มาซากิ สุดะ”, “มาซากิ โอะกาดะ” หรือ “แอนน์ วาตานาเบะ” ต่างเป็น “top actor” ของวงการ แต่ถูกจับมาใส่อยู่ในหนังแข็งกระด้างเรื่องนี้ ก็กลายเป็นการใส่วัตถุดิบชั้นเลิศลงในหม้อแกงที่ “taste” ไม่อร่อยไปอย่างน่าเสียดาย แม้ว่าการแสดงของพวกเขาดีในระดับมาตรฐาน แต่พอออกมาโดยรวมแล้ว การแสดงของพวกเขากลับไม่สามารถช่วย “support” หนังเรื่องนี้ใดๆ ได้เลย
โดยภาพรวมแล้ว CUBE กล่องเกมมรณะ คงจะจัดได้ว่าเป็น “remake version” ค่อนข้างน่าผิดหวัง ถึงแม้ว่าตัวหนังเรื่องนี้จะไม่ได้มี “length” อะไรมาก แค่ชั่วโมงกว่าๆ แต่ในขณะรับชมอยู่กลับรู้สึกเนิ่นนานยาวไกลเสียเหลือเกิน พร้อมกับฉุกคิดคำถามขึ้นมาอยู่ในหัวบ่อยๆ ว่า “เมื่อไหร่จะจบ?” พร้อมกับก้มส่องนาฬิกาบ่อยครั้ง อาจจะยังไม่ใช่หนัง “remake” ที่ทำออกมาได้ดีที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นหนังที่ย่ำแย่อะไรขนาดนั้น เป็นแค่หนังที่พอดูได้ เป็น “original dish” ที่ทำออกมาเป็นรสชาติใหม่…ที่ไม่ถึงกับอร่อยจนอยากกินอีก
รับชมตัวอย่างหนัง : CUBE กล่องเกมมรณะ
